การวัดผลของธุรกิจที่มีรายได้จาก “ขยะ” มีตัวเลขชัดเจนจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ที่เปิดเผยข้อมูลการแจ้งผลประกอบการของธุรกิจเกี่ยวกับขยะ 3 กลุ่ม ของปี 2560 ที่มีทั้งธุรกิจรับซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ ตั้งแต่ เครื่องบิน รถยนต์ จนถึงพัดลม เพื่อแยกชิ้นส่วน หรือการเก็บจากขยะตั้งแต่กระป๋องน้ำอัดลม จนถึงน้ำมันใช้แล้ว
กลุ่มแรก เป็นประเภทขายส่งของเสียและเศษวัสดุเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ เช่น ส่งเศษและชิ้นส่วนโลหะและอโลหะ เช่น รถยนต์ คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์และอุปกรณ์อื่น ๆ โดยไม่แปรรูป เพื่อนำชิ้นส่วนที่ยังใช้การได้ มาจำหน่ายต่อไป เป็นกลุ่มที่มีผู้ประกอบการมากที่สุดกว่า 2 พันราย แจ้งผลประกอบการประมาณ 1,619 ราย มีรายได้รวม 122,025 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,536 ล้านบาท
กลุ่มสอง ประเภทเก็บรวบรวมของเสียซึ่งเป็นของแข็งที่ไม่เป็นอันตราย จากถังขยะ รถเข็นขยะ ถังพักขยะ ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ การเก็บน้ำมันและไขมันใช้แล้วจากการปรุงอาหาร
กลุ่มนี้แจ้งผลประกอบการ 167 ราย มีรายได้รวม 2,726 ล้านาท กำไรสุทธิ 302 ล้านบาท
กลุ่มสาม แปรรูปเศษและชิ้นส่วนโลหะและอโลหะ เพื่อนำมาเป็นวัสดุที่ใช้แล้วกลับมาใช้ใหม่ เช่น กระดาษ พลาสติก กระป๋องโลหะบรรจุอาหาร รวมไปถึงการใช้เครื่องจักรบดอัดขยะที่เป็นโลหะ ได้แก่ รถยนต์ใช้แล้ว เครื่องซักผ้า จักรยาน การแปรรูปขยะพลาสติกหรือยาง การแปรรูปน้ำมันและไขมันใช้แล้วจากการปรุงอาหารเพื่อให้เป็นวัตถุดิบที่นำกลับมาใช้ใหม่ รวมทั้งการแปรรูปของเหลือจากอาหาร เครื่องดื่ม ยาสูบ และของเหลือใช้ให้เป็นวัตถุดิบที่นำกลับมาใช้ใหม่
กลุ่มนี้แจ้งผลประกอบการ 345 ราย มีรายได้รวม 12,279 ล้านบาท กำไรสุทธิ 226 ล้านบาท
ในวงจรธุรกิจการแปลงขยะให้ทำเงินนั้น เป็นโอกาสของทุกคน ทุกบ้านสามารถนำขยะในบ้านไปขายได้ มีรับซื้อถึงที่ จากทั้งซาเล้ง กระบะเร่ตามซอย ไปจนถึงโรงงาน ส่งต่อจุดแปรรูปต่าง ๆ เพื่อนำวัสดุเก่ากลับมาใช้ได้อีก
นี่คือมูลค่าของขยะ ที่เหม็นน่ารังเกียจ สกปรก แต่กลายเป็นวงจรธุรกิจที่สร้างเม็ดเงินนับแสนล้าน และที่มิอาจประเมินมูลค่าได้คือการพยายามนำขยะกลับมาใช้ประโยชน์ เพื่อลดขยะเกิดใหม่ คือการช่วยกันทำให้ขยะไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม รักษ์โลกได้อย่างมหาศาล