สิ้นสุดวันที่ 10 พ.ค. 2562 เส้นตายที่ กสทช.กำหนดให้ช่องทีวีดิจิทัลยื่นเจตจำนงในการคืนใบอนุญาต ยุติการออกอากาศ ผลปรากฏมีทีวี 7 ช่องที่ถอดใจ มาตั้งแต่ไก่โห่คือ ช่องสปริงนิวส์ 19 ตามมาด้วย Voice TV21, ไบรท์ทีวี 20, Mcot 14, ช่อง 13 Family, ช่อง 3-28SD และ สปริง 26
ทีนี้มาถึงคำถามยอดนิยมว่า แต่ละช่องที่คืนใบอนุญาตนั้น จะได้เงินกลับคืนไปเป็นน้ำหล่อเลี้ยงใจกันสักกี่มากน้อย ยึดตามสูตรการคืนเงินของ กสทช. ซึ่งผู้สื่อข่าว “ไทยรัฐไซเบอร์เน็ต” ลงทุนไปนั่งกดเครื่องคิดเลขให้ดูต่อหน้า เบื้องต้นพบว่า 1.ช่อง 3 แฟมิลี่ ได้เงินคืน 241 ล้านบาท 2.ช่อง 19 สปริงนิวส์ ได้เงินคืน 520 ล้านบาท 3.ช่อง 20 ไบรท์ ทีวี ได้เงินคืน 494 ล้านบาท 4.ช่อง 21 วอยซ์ ทีวี ได้เงินคืน 516 ล้านบาท 5.ช่อง 14 อสมท วงเงิน 231 ล้านบาท 6.ช่อง 28 (ช่อง 3 เอสดี) วงเงิน 941 ล้านบาท 7.ช่อง สปริง 26 จำนวน 877 ล้านบาท รวมเป็นทั้งสิ้นประมาณ 3,820 ล้านบาท
สำหรับผู้ประกอบการโทรคมนาคม ก็ต่างพร้อมเพรียงมายื่นหนังสือเพื่อขอใช้สิทธิ์ขยายระยะเวลาการชำระค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ จาก 4 ปี เป็น 10 ปี ทั้ง 3 ราย ประกอบด้วย เอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ แม้การยื่นหนังสือใช้สิทธิ์ครั้งนี้ จะขอสงวนสิทธิ์ไว้ก่อน เนื่องจากรอดูหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการจัดสรรคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ที่ กสทช.จะจัดสรรให้ในวันที่ 19 มิ.ย.2562 หากไม่พอใจราคาที่ กสทช.จัดสรร ก็สามารถขอถอนตัวจากการรับสิทธิขยายเวลาผ่อนชำระค่าประมูลคลื่นได้
ฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. แจ้งว่า ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทั้ง 7 ช่อง จะต้องส่งเอกสารหลักฐานการเงินให้ กสทช.พิจารณา รวมถึงแผนการยุติการออกอากาศมาให้พิจารณาด้วย คาดว่าจะใช้เวลาไม่น้อยกว่า 60 วัน หลังจากนั้นจะเสนอบอร์ด กสทช.พิจารณาอนุมัติแผนการยุติการออกอากาศ เมื่อบอร์ดอนุมัติแล้ว ทีวีดิจิทัลทั้ง 7 ช่อง จะต้องแจ้งให้ประชาชนรับทราบว่านับจากนี้อีก 30 วันจะยุติการออกอากาศ โดยคาดการณ์เบื้องต้นว่า จะยุติการออกอากาศทั้ง 7 ช่องราวเดือน ส.ค.2562