นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 7 พ.ค.นี้ จะประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ที่มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน โดยจะพิจารณาโครงสร้างต้นทุนราคายา ตามที่คณะทำงานศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคา ที่มีตนเป็นประธาน เสนอ หลังจากที่คณะทำงานได้ขอราคาซื้อ-ขาย ราคานำเข้า จากโรงพยาบาลเอกชน ผู้ผลิตและผู้นำเข้า รวมถึงร้านขายยารายใหญ่รวมกันกว่า 1,000 ราย คิดเป็นยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์กว่า 10,000 รายการ และนำมาวิเคราะห์โครงสร้างต้นทุนเสร็จแล้ว พร้อมกันนั้นจะเสนอมาตรการกำกับดูแลสินค้าและบริการดังกล่าว และข้อเสนอของมูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภคที่ต้องการให้ภาครัฐดูแล
สำหรับมาตรการที่จะนำเสนอ เช่น จะกำหนดให้โรงพยาบาลเผยแพร่ราคายาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ทางเว็บไซต์ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับทราบ และโรงพยาบาลต้องให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อจากภายนอกได้ โดยในใบสั่งยาแพทย์ต้องเขียนชื่อยาให้ชัดเจน ทั้งชื่อทางการค้า และชื่อทางวิทยาศาสตร์ “เมื่อคณะอนุกรรมการเห็นชอบมาตรการตามที่เสนอ
กรม ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) จะทำเรื่องเสนอให้ กกร. ที่มี น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์และรักษาการ รมว.พาณิชย์ เป็นประธาน พิจารณาอนุมัติในการประชุมวันที่ 10 พ.ค.นี้ หาก กกร.เห็นชอบ ก็จะออกเป็นประกาศ กกร. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 หากโรงพยาบาลใดไม่ดำเนินการตามจะมีโทษทั้งจำและปรับ”
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้าที่ กกร.จะออกประกาศให้ยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุมประจำปี 62 กระทรวงพาณิชย์ได้ขอความร่วมมือให้กระทรวงสาธารณสุขแจ้งให้โรงพยาบาลเอกชนเผยแพร่ราคายาทางเว็บไซต์ตั้งแต่เดือน เม.ย.62 เป็นต้นไป โดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพรับจะหารือกับโรงพยาบาลเอกชน แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการเผยแพร่ราคาบนเว็บไซต์ตามที่ตกลงกันไว้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากกรมการค้าภายในทำหนังสือชี้แจงศาลปกครอง เมื่อวันที่ 29 เม.ย.62 กรณีสมาคมโรงพยาบาลเอกชนได้ฟ้องร้องขอให้คุ้มครองชั่วคราวคำสั่ง กกร. ที่นำยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าและบริการควบคุมปี 62 นั้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พ.ค.62 กรมได้ทำหนังสือชี้แจงเพิ่มเติมไปยังศาลปกครอง เพราะสมาคมได้ส่งข้อมูลเพิ่มเติมไปให้ศาลอีก โดยสมาคมระบุว่า การออกประกาศ กกร. คุมยา ไม่ชอบด้วยกฎหมาย เป็นดุลพินิจฝ่ายเดียว ทำให้ราคาหุ้นของโรงพยาบาลตกต่ำ ผู้ประกอบวิชาชีพขาดเสรีภาพในการประกอบวิชาชีพ และกระทบต่อดุลพินิจของแพทย์ในการวินิจฉัยโรค ส่วนหนังสือของกรมได้ชี้แจงทุกข้อกล่าวหาอย่างชัดเจน.