ภาคเอกชน ยอมจำนน ลดเป้าส่งออกปีนี้เหลือ 2.1% จากเดิม 3.1% หลังคำสั่งซื้อลด เศรษฐกิจ-การค้าโลกชะลอ ขณะที่ "พาณิชย์" ยอมรับเป้า 8% เป็นไปได้ยาก จ่อประชุมทูตพาณิชย์ 31 พ.ค.นี้ ประเมินตลาด...
เมื่อวันที่ 30 เม.ย. นายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยภายหลังการประเมินสถานการณ์ส่งออกของไทยในช่วงไตรมาส 2 ร่วมกับกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศว่า ภาคเอกชนได้ปรับลดเป้าหมายมูลค่าการส่งออกของไทยในปีนี้ใหม่ เหลือขยายตัวเพียง 2.1% จากปี 61 คิดเป็นมูลค่า 257,750 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากก่อนหน้านี้ที่คาดจะขยายตัวได้ 3.1% ซึ่งหากจะทำให้ได้ 2.1% ในแต่ละเดือนต้องส่งออกให้ได้ 21,560 ล้านเหรียญฯ
สำหรับผลกระทบของการส่งออกส่วนใหญ่มาจากปัจจัยจากภายนอก ทั้งคำสั่งซื้อจากต่างประเทศที่มีในมือผู้ส่งออกขณะนี้ ที่ลดลงจากช่วงก่อนหน้านี้ รวมถึงเศรษฐกิจ และการค้าโลกที่ยังชะลอตัวลง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน ที่ยังไม่จบ แม้มีสัญญาณในทางที่ดีขึ้น รวมถึงไทยยังเสียเปรียบคู่แข่งบางประเทศที่มีความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับคู่ค้ารายใหญ่ และไทยยังเสียสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) จากญี่ปุ่นอีก
สำหรับอัตราการขยายตัว 2.1% เป็นการส่งออกสินค้าเกษตร 1.6% โดยสินค้าสำคัญ เช่น ข้าว ปริมาณส่งออกลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 11 ล้านตันเหลือ 9.5 ล้านตัน มันสำปะหลัง ลด 10% น้ำตาล ลด 8% ส่วนยางพารา เพิ่ม 5% อาหาร เพิ่ม 5% แต่หากรัฐสนับสนุนการส่งออกอาหารมากขึ้น น่าจะบวกได้มากกว่านี้ ส่วนสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่ม 2.3% มาจากอิเล็กทรอนิกส์ เพิ่ม 1.4% ยานยนต์และชิ้นส่วน เพิ่ม 3% เครื่องใช้ไฟฟ้า เพิ่ม 1.1% เม็ดพลาสติก เพิ่ม 2% อัญมณี รวมทองคำ เพิ่ม 3% น้ำมัน เพิ่ม 2% วัสดุก่อสร้าง เพิ่ม 5% ผลิตภัณฑ์ยาง เพิ่ม 7% เครื่องจักร เพิ่ม 3% สิ่งทอ เพิ่ม 3% เคมีภัณฑ์ เพิ่ม 2%
ด้าน น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า จนถึงขณะนี้กระทรวงพาณิชย์ยังคงยืนยันเป้าหมายการทำงานไว้ที่ขยายตัว 8% เหมือนเดิม ซึ่งแต่ละเดือนต้องส่งออกให้ได้ 23,000 ล้านเหรียญฯ แต่เท่าที่ประเมินในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ยังทำไม่ได้ ซึ่งกรมจะขอประเมินตัวเลขเดือนเม.ย. ซึ่งเป็นเดือนที่ 4 อีกครั้ง หากยังไม่ได้ ก็ต้องพิจารณาถึงการปรับเป้าหมายการส่งออกของปีนี้ใหม่ โดยจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจน หลังจากได้ประชุมร่วมกับผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) วันที่ 31 พ.ค.นี้ก่อน
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมได้เห็นชอบให้จัดตั้งคณะทำงานเพื่อขับเคลื่อนและเพิ่มขีดความสามารถทางการค้าระหว่างประเทศ ระหว่างกรม และภาคเอกชน เพื่อประชุมร่วมกับภาคเอกชนเป็นระยะๆ เพื่อแก้ปัญหา และอุปสรรคทางการค้า การส่งออกของไทย โดยหากมีประเด็นที่เห็นควรเสนอขอความเห็นชอบในระดับนโยบาย ก็จะนำเสนอให้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศ (กนศ.) พิจารณาสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป แต่หากแก้ปัญหาในระดับหน่วยงาน หรือระดับกระทรวงได้ จะรีบดำเนินการทันที.