ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมโรงพยาบาลเอกชน ได้ขอลาออกจากการเป็นกรรมการในคณะอนุกรรมการพิจารณามาตรการกำกับดูแลยาและเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ที่มีปลัดกระทรวงพาณิชย์เป็นประธาน และคณะทำงานศึกษาโครงสร้างต้นทุนราคายา ที่มีอธิบดีกรมการค้าภายในเป็นประธาน
โดยให้เหตุผลว่า ไม่มีเวลาเข้าร่วมประชุม และเมื่อเสนอความเห็นแล้ว กระทรวงพาณิชย์ไม่เคยรับฟัง จึงไม่มีความจำเป็นที่จะอยู่ต่อ โดยภายหลังการลาออกแล้ว สมาคมได้ฟ้องร้องต่อศาลปกครอง ให้คุ้มครองชั่วคราวคำสั่งคณะกรรมการกลาง ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ที่มี รมว.พาณิชย์เป็นประธาน และได้นำยาและเวชภัณฑ์และบริการทางการแพทย์ เป็นสินค้าและบริการควบคุมปี 62 โดยอ้างว่า ก่อนที่ กกร.จะนำเข้าสู่บัญชีควบคุม สมาคมไม่มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นใดๆ และคำสั่งดังกล่าวบังคับใช้เฉพาะกับโรงพยาบาลเอกชนเท่านั้น จึงส่งผลเสียหายต่อโรงพยาบาลเอกชน และขอให้ศาลคุ้มครองคำสั่งชั่วคราว เพื่อให้การออกประกาศของ กกร.หยุดการบังคับใช้
อย่างไรก็ตาม คณะอนุกรรมการฯ จะประชุมวันที่ 7 พ.ค.นี้ เพื่อพิจารณาข้อมูลโครงสร้างต้นทุนราคายา รวมถึงมาตรการที่จะใช้กำกับดูแล เช่น กำหนดให้สถานพยาบาลปิดป้ายแสดงราคาให้ชัดเจน และเผยแพร่ทางเว็บไซต์ ขณะเดียวกัน กรมการค้าภายในจะนำราคาเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของกรม รวมถึงประสานกระทรวงสาธารณสุข แจ้งโรงพยาบาลให้ระบุรายการยาและเวชภัณฑ์ในใบสั่งยา ทั้งชื่อทางการค้า และชื่อวิทยาศาสตร์ เพื่อให้ผู้ป่วยนำใบสั่งยาไปซื้อจากภายนอกได้ หากคณะอนุกรรมการฯเห็นชอบมาตรการ กรมการค้าภายใน ในฐานะเลขานุการ กกร.จะเสนอให้ กกร.เห็นชอบ และออกประกาศ กกร. เพื่อบังคับใช้มาตรการต่อไป และเมื่อออกประกาศ กกร.แล้ว สถานพยาบาลใดไม่ปฏิบัติตาม จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 ซึ่งจะมีโทษทั้งจำและปรับ.