นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย หรือเจ๊ติ๋ม ทีวีพูล ประธานกรรมการบริษัท ไทยทีวี จำกัด เปิดบ้านแถลงข่าวเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 2562 ระบุคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่องมาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม จะเป็นหลักฐานชิ้นใหม่ในคดีที่ไทยทีวียื่นอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุด กรณีเรียกร้องให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และสำนักงาน กสทช.คืนเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ทีวีดิจิทัลในส่วนที่ได้จ่ายไป รวมทั้งชดเชยค่าเสียหายและดอกเบี้ยจากการดำเนินนโยบายทีวีดิจิทัลที่ผิดพลาดเป็นเงินรวม 1,134 ล้านบาท
“มาตรการเยียวยาจะเป็นหลักฐานเพิ่มเติมที่ทำให้ไทยทีวีมีโอกาสชนะและได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามที่ร้องขอไป เพราะขณะนี้รัฐบาลมีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลแล้ว และไทยทีวีก็เคยเป็นผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลที่เลือดไหลหมดตัวเพราะการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดของ กสทช.”
อย่างไรก็ตาม หาก กสทช.ต้องการที่จะเจรจาไกล่เกลี่ย โดยใช้ ม.44 ที่ออกมา เทียบเคียงเพื่อกำหนดค่าเสียหาย ก็สามารถกระทำได้ โดยไทยทีวีจะต้องได้รับเงินชดเชยครบเต็มจำนวน 100% ที่ 1,134 ล้านบาท ประกอบด้วย เงินค่าประมูลงวดแรกหักลบกับมูลค่าคลื่นที่ประกอบการ 1 ปี 4 เดือน ที่เหลือเป็นเงินที่ต้องได้คืน, ค่าเสียหาย ประกอบด้วย เงินเดือนพนักงาน ค่าบริหาร จัดการ เงินลงทุนต่างๆ ราว 750 ล้านบาท และดอกเบี้ย 7.5%
นางพันธุ์ทิพา กล่าวอีกว่า เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ที่ผ่านมา ยังได้เดินทางเข้าพบนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เพื่อขอทราบรายละเอียดของ ม.44 ฉบับดังกล่าวและเรียกร้องให้ กสทช.รีบเปิดเผยสูตรมาตรการเยียวยา ว่าหากคืนใบอนุญาตแล้ว จะได้เงินค่าประมูลคืนเป็นสัดส่วนเท่าไร ซึ่งตนก็อยากกระตุ้นให้ผู้ประกอบการช่องอื่นๆที่อยากได้รายละเอียดและความชัดเจน ออกมาเรียกร้องกันมากๆ ส่วนตนนั้นแม้ไม่มีสิทธิในมาตรการเยียวยา แต่ก็มีสิทธิเรียกร้อง เพราะจะเอาไปยื่นเป็นหลักฐานเพิ่มเติมในศาล.