ข่าวฮือฮาสนั่นลั่นทุ่งในช่วง 2 วันมานี้ คงหนีไม่พ้น “โครงการแจกเงินคนไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป เพื่อเที่ยวเมืองรองคนละ 1,500 บาท” ข่าวนี้ทำเอาหลายคนชอบ หลายคนชัง แต่จะหนักไปทางหลังเสียมากกว่า ทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ติดตามความคืบหน้าล่าสุดมาให้ผู้ที่สนใจโครงการดังกล่าว
- โครงการ “ยิ่งเที่ยว ยิ่งเท่ ช่วยเปย์ เมืองรอง” มีแนวคิดที่จะแจกเงินให้ประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป คนละ 1,500 บาท งบประมาณทั้งสิ้น 15,000 ล้านบาท
- ผู้ที่สนใจจะต้องมาลงทะเบียนผ่านระบบออนไลน์ภายใน 10 ล้านคนแรกเท่านั้น และจะต้องระบุว่าจะไปเที่ยวจังหวัดเมืองรอง โดยไม่สามารถเลือกจังหวัดที่ตนเองอยู่อาศัยได้
- โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา (24 เม.ย.) มีรายงานเพิ่มเติมจากกระทรวงการคลัง ถึงขั้นตอนการนำเงินออกมาใช้ ซึ่งมีขั้นตอน ดังต่อไปนี้
1. ผู้ที่จะได้รับเงินต้องนำบัตรเดบิตไปดำเนินการเปิดสิทธิของบัตร (Activate) กับเมืองรองทั้ง 55 จังหวัด ที่ได้ลงทะเบียนไว้ในระบบออนไลน์ เพื่อยืนยันตัวตน
2. แตะบัตรกับเครื่องรูดบัตร (อีดีซี) ที่ติดตั้งในร้านธงฟ้าของรัฐบาล
3. หลังจากยืนยันตัวตนแล้ว ธนาคารกรุงไทยจะโอนเงินเข้าบัญชีและสามารถกดเป็นเงินสดเพื่อใช้จ่าย หรือนำบัตรไปรูดซื้อสินค้าและบริการยังเมืองรองดังกล่าว โดยเงินที่ได้จะต้องนำไปใช้จ่ายซื้อสินค้า และบริการผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment)
- โครงการดังกล่าว จะเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบในวันที่ 30 เม.ย.นี้ โดยกระทรวงการคลังหวังว่ามาตรการดังกล่าวจะเข้ามาช่วยพยุงเศรษฐกิจไตรมาส 2 ให้ดีขึ้นได้
- ภายหลังจากที่มีกระแสข่าวแจกเงิน 1,500 บาท และมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนัก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ออกมาให้ความเห็นในเรื่องดังกล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเห็นจากในข่าว ซึ่งเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว เรื่องยังไม่ผ่านความเห็นชอบจาก ครม.แล้วเหตุใดเรื่องจึงหลุดออกไปก่อน และเราก็ไม่ได้ชี้แจง คนจึงเอาไปตีความอย่างนั้นอย่างนี้ โดยที่รายละเอียดยังไม่ออกมาอย่างชัดเจน
- ล่าสุด นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยกับทีมข่าวเจาะประเด็น ไทยรัฐออนไลน์ ว่า “อันที่จริงแล้วเรื่องนี้เป็นการศึกษาของ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ที่มีการหารือว่า หากต้องการจะกระตุ้นเศรษฐกิจให้ได้ผลเร็ว จะต้องใช้วิธีใด ซึ่งมีการเสนอว่า ควรจะทำแบบนั้น และยังไม่ได้ข้อสรุปเลยว่า จะเอาหรือไม่เอา และได้ไปศึกษาเพิ่มว่า ถ้าทำจริง จะคุ้มหรือไม่ ซึ่งข้อสรุปที่ว่าทำแล้วคุ้มหรือไม่คุ้มนั้น มันยังไม่ได้สรุปออกมาเลย”
- ส่วนโครงการดังกล่าว จะถูกเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และประกาศใช้หรือไม่นั้น นายอภิศักดิ์ กล่าวว่า “หากศึกษาแล้วพบว่า ทำแล้วคุ้มค่า ก็ทำ แต่ถ้ายังไม่คุ้มค่านัก ก็ไม่ทำ มันก็มีแค่นี้เอง”
- เมื่อถามถึงกรณีที่มีรายงานข่าวจากกระทรวงการคลังถึงกระบวนการนำเงินออกมาใช้ นายอภิศักดิ์ ตอบว่า “ยังไม่ทราบ เขาก็กำลังคิดว่าคุ้มหรือไม่คุ้ม วิธีการมีกี่แบบ เขาก็คิดกันไป ยังไม่ได้มีการสรุป”.