ลั่นไฮสปีดเทรนไม่ซ้ำรอยโฮปเวลล์
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ว่า การประชุมครั้งนี้ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ตามที่วางเป้าหมายในการประมูลหาผู้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) 4 โครงการ คือ 1. รถไฟเชื่อมสามสนามบินเจรจาจบ 2. โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรม มาบตาพุด ระยะ 3 เจรจาจบ 3. ได้ตัวเอกชนที่จะมาดำเนินโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 ท่าเรือ F และ 4. โครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีความคืบหน้าจะจบในเดือนพ.ค.นี้ ความหมายคือ โครงการใหญ่เดินหน้า สร้างความเชื่อถือและเพิ่มความเชื่อมั่นในยามการเมืองแกว่ง บรรลุหลักชัยก่อนรัฐบาลจบลงตามเป้าหมาย ส่วนโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยานอู่ตะเภา (MRO) ได้สั่งการให้เร่งดำเนินการอยู่
ด้านนายคณิศ ศรีสุพรรณ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) กล่าวว่า ทั้ง 4 โครงการที่รายงาน กพอ. รับทราบความคืบหน้าจะสามารถจัดหาภาคเอกชนได้ภายในเดือนพ.ค.นี้ยกเว้นสนามบินอู่ตะเภาจะล่าช้าออกไปเล็กน้อย ส่วน 3 โครงการแรกจะเสนอเข้า กพอ.ครั้งต่อไปในวันที่ 15 พ.ค.นี้ จากนั้นจะเสนอเข้าครม.ในเดือนเดียวกันและลงนามในสัญญากับเอกชนได้ในทันที และจะเริ่มต้นก่อสร้างได้ภายในครึ่งหลังของปีนี้ ซึ่งนายกฯและรองสมคิด เร่งให้เดินหน้าทุกโครงการ ที่ผ่านมาล่าช้าไปจากแผน 2 เดือน แต่การทำโครงการใหญ่ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะมีสิ่งไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่มาถึงจุดนี้ทุกโครงการได้ทำภายในรัฐบาลชุดนี้แน่นอน
“ทั้ง 4 โครงการจะทำให้เกิดการลงทุน 650,000 ล้านบาทใน 5 ปีจากนี้ไป หรือปีละ 150,000 ล้านบาท เมื่อรวมกับเงินลงทุนที่ผ่านการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีอีกปีละ 100,000 ล้านบาท และการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของภาคเอกชนที่จะตามมาปีละ 50,000 ล้านบาท ทำให้มีเงินลงทุนต่อปีที่ 300,000 ล้านบาท ผลักดันให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) เพิ่มขึ้นปีละ 2% ส่วนที่มีคนเป็นห่วงว่ารถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะซ้ำรอยโครงการโฮปวล์ต้องบอกว่าไม่เหมือนกัน เพราะโครงการนี้สร้างเสร็จก่อนรัฐถึงจะจ่ายเงิน ขณะที่โฮปเวลล์สร้างไปจ่ายไป”
นายวรวุฒิ มาลารักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินที่มีการเจรจากับกลุ่มกิจการร่วมค้า บริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร (กลุ่ม CPH) จะเสร็จสิ้นภายใน 26 เม.ย.นี้ และคาดจะลงนามสัญญาร่วมลงทุนภายในเดือน พ.ค. ขณะที่นายวิฑูรย์ อยู่ทิม รองผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 กล่าวว่า ขณะนี้ได้กลุ่มกิจการร่วมค้า ได้แก่ กัลฟ์และพีทีทีแทงค์ ซึ่งจะเจรจาเสร็จภายในเดือน เม.ย.นี้ ด้าน ร.ท.กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย กล่าวว่า โครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง ระยะที่ 3 ท่าเทียบเรือ F จากการเปิดซองคุณสมบัติ ทางกลุ่มกิจการร่วมค้า จีพีซี (กลุ่ม GPC) เป็นไปตามทีโออาร์ ซึ่งจะเจรจาต่อ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนพ.ค.นี้.