เปิดตัวเลขช่วย 3ค่ายมือถือ-ทีวีดิจิทัล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่คำสั่งคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม โดยให้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ เมื่อ 11 เม.ย.62 โดยมีสาระสำคัญคือ ผู้รับใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิทัล 22 ช่อง ไม่ต้องนำเงินค่าประมูลงวดที่ 5 และ 6 มาชำระให้ กสทช.อีก ส่วนรายใดที่นำเงินมาชำระไปแล้วมาขอคืนได้ แต่รายใดที่ยังชำระงวดที่ 4 ไม่ครบก็ให้นำเงินมาชำระให้ครบถ้วน ทั้งนี้ วงเงินค่าประมูลทีวีดิจิทัลงวดที่ 5 และ 6 ที่ได้รับยกเว้นรวมเป็นเงิน 13,621.60 ล้านบาท และ กสทช.จะช่วยออกเงินค่าเช่าโครงข่ายทีวีดิจิทัล (MUX) ให้ด้วย รวมเป็นเงินปีละ 1,960 ล้านบาท ไปตลอดสิ้นสุดใบอนุญาตในปี 72 รวม 11,960 ล้านบาท รวมเงินที่ทีวีดิจิทัลได้รับการช่วยเหลือครั้งนี้ทั้งสิ้น 33,202.40 ล้านบาท นอกจากนี้ยังเปิดให้ผู้ประกอบการที่ประสงค์จะคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล ให้แจ้ง กสทช.อย่างเป็นทางการใน 30 วัน หรือภายใน 11 พ.ค.62 และ กสทช.จะพิจารณาค่าชดเชยให้ผู้ประกอบการ

ส่วนการช่วยเหลือ ผู้ประกอบการโทรคมนาคมผู้รับใบอนุญาตคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ 3 รายนั้น กสทช.จะขยายเวลาการชำระเงินค่าคลื่นออกไปจาก 4 งวดเป็น 10 งวดๆละเท่ากัน เพื่อให้ผู้ประกอบการมีเงินทุนมาประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ และขยายโครงข่ายโทรคมนาคมรองรับการให้บริการ 5 จีในอนาคต ซึ่งหากผู้ประกอบการยอมรับเงื่อนไขตามคำสั่ง ม. 44 ครั้งนี้ จะต้องเข้าร่วมประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรต์ด้วย หากไม่เข้าร่วมประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ ก็ไม่ได้รับสิทธิ์ขยายเวลาการชำระค่าคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ตามคำสั่ง คสช.ฉบับนี้

ทั้งนี้ จากการที่ให้ขยายเวลาการชำระค่าคลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ เป็นเวลา 10 ปีนั้น ได้มีการคำณวนว่า แต่ละรายจะนำเงินมาชำระดังนี้ บริษัททรูมูฟ เอช ชนะประมูลราคา 76,268 ล้านบาท เมื่อปี 59 และได้ชำระเงินไปแล้ว 3 งวด ปี 59-62 รวมเป็นเงิน 16,080 ล้านบาท หากทรูมูฟเอส ยอมรับเงื่อนไขคำสั่ง ม. 44 ต้องนำเงินมาชำระของปี 63 รวม 22,069 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 64 ต้องชำระค่าประมูลปีละ 7,626.80 ล้านบาทไปถึงปี 68 ขณะที่เอไอเอส ชนะประมูลราคา 75,654 ล้านบาท ชำระค่าประมูลไปแล้ว 16,080 ล้านบาท และหากรับเงื่อนไขคำสั่ง ม. 44 เอไอเอสต้องนำเงินมาชำระค่าประมูลปี 63 ทั้งสิ้น 21,747 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 64 ถึง 68 เอไอเอสต้องนำเงินมาชำระงวดละ 7,565.40 ล้านบาท จึงชำระค่าคลื่นครบ 75,654 ล้านบาท ส่วนดีแทคได้คลื่น 900 เมกะเฮิรตซ์ เมื่อปี 61 ราคา 38,064 ล้านบาท ขณะนี้ได้ชำระเงินงวดแรก 4,020 ล้านบาท หากดีแทครับเงื่อนไขคำสั่ง ม. 44 งวดที่ 2 ปี 63 ดีแทคต้องนำเงินมาชำระ 7,399 ล้านบาท ส่วนงวดที่ 3 -10 ชำระปีละ 3,806.40 ล้านบาท ไปจนถึงปี 70

ทั้งนี้ ในปี 63 กสทช.จะได้รับเงินค่าประมูลคลื่น 900 เมกะเฮิตรซ์ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 51,215 ล้านบาท และปี 64-68 จะได้รับเงินปีละ 18,998 ล้านบาท และหากมีการประมูลคลื่น 700 เมกะเฮิรตซ์ในปี 62 ซึ่งกำหนดให้จ่ายเงินงวดแรกในปี 64 ก็จะทำให้ปี 64 รัฐจะได้รับเงินเพิ่มเป็นปีละ 27,700 -30,000 ล้านบาทไปจนถึงปี 70 ซึ่งจะทำให้รัฐบาล สามารถวางแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เพื่อนำไปขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมได้ ส่วนรายละเอียดความช่วยเหลือของทีวีดิจิทัลนั้นรายละเอียดตามตาราง.