นายดีเจ โกห์ ประธานธุรกิจโทรคมนาคม บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด เปิดเผยว่า หลายปีที่ผ่านมา ตลาดมือถือเริ่มอิ่มตัว ไม่มีการเติบโต โดยเฉพาะมือถือระดับบน (Highend) ที่ความต้องการลดลงอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 5 จี ซึ่งเริ่มเปิดให้บริการปีนี้เป็นปีแรก จะช่วยทำให้ตลาดคึกคักมากขึ้น
“5 จี และ AI (Artificial Intelligence) หรือปัญญาประดิษฐ์ จะเข้ามามีบทบาทหลักในการขับเคลื่อนตลาดมือถือนับจากนี้ รวมทั้งจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง ซึ่งซัมซุงหวังว่าจะเป็นโอกาสที่สำคัญ เพราะซัมซุงมีสินค้าที่ครอบคลุม ทั้งเน็ตเวิร์ก ชิปเซต และมือถือ เรียกได้ว่ามีระบบนิเวศที่ครบวงจร”
ส่วนในแง่ของการแข่งขัน เขายอมรับว่า ซัมซุงกำลังเผชิญหน้ากับความท้าทายจากมือถือค่ายจีน ซึ่งที่ผ่านมาทำผลงานได้ดี ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า “ในฐานะคู่แข่ง อะไรที่แบรนด์จีนทำได้ดี เราก็พร้อมจะศึกษาและเอามาให้บริการ เพราะเชื่อว่าเราสามารถเรียนรู้จากคู่แข่งได้”
อย่างไรก็ตาม หากจะถามในแง่ของกลยุทธ์ในการทำธุรกิจ ซัมซุงยึดหลักทำความเข้าใจผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด เพื่อนำไปสู่การพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นที่ต้องการและยอมรับ ภายใต้แผนดำเนินงานหรือโรดแม็ป (Roadmap) ของซัมซุง ซึ่งที่ผ่านมา มีบทบาทอย่างมากต่อความสำเร็จในการเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ๆ
ประธานธุรกิจโทรคมนาคมของซัมซุงอธิบายเพิ่มเติมว่า 9 ปีที่แล้ว ซัมซุงคิดค้นเทคโนโลยีมือถือรุ่นหน้าจอพับได้ แต่เป็นการพับโดยที่เอาหน้าจอออกมา ไม่ตอบโจทย์ด้านความเป็นส่วนตัว จนในที่สุดต้องพัฒนาให้เป็นจอพับแบบพับหน้าจอไว้ด้านใน และนี่เป็นตัวอย่างของเทคโนโลยีรุ่นใหม่ๆ ที่อาจไม่ได้รับการยอมรับหรือชื่นชม หากไม่ถูกแก้ไขให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
“โรดแม็ปของซัมซุงจึงไม่ใช่เรื่องของเทคโนโลยีใด เทคโนโลยีหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นเทคโนโลยีในภาพรวม ที่ต้องผ่านการวิจัยและพัฒนาในทุกองคาพยพ เพื่อให้ผู้บริโภคยอมรับ อยากใช้สินค้านั้น ไม่ใช่แค่ว้าว! อย่างเดียว”
นายโกห์ ยังยกตัวอย่างถึงเทคโนโลยีกล้องหมุนได้ (Rotating Camera) ซึ่งถูกบรรจุอยู่ในสมาร์ทโฟนรุ่นกาแล็กซี่ เอ 80 ซึ่งเปิดตัวระดับโลกไปเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ณ กรุงเทพมหานคร ว่า 5 ปีที่แล้ว ซัมซุงยังไม่มีเทคโนโลยีที่สามารถหมุนกล้องหลังให้กลับมาถ่ายเป็นกล้องหน้าได้ จนมาถึงวันนี้ ภายใต้โรดแม็ปของซัมซุง เทคโนโลยีกล้องหมุนได้ถูกนำมาใช้เป็นครั้งแรกในสมาร์ทโฟนกาแล็กซี่ เอ
หลักในการแข่งขันของซัมซุงท่ามกลางสมรภูมิที่ดุเดือดนี้ จึงยึดอยู่กับโรดแม็ป ซึ่งเปรียบเสมือนคัมภีร์ธุรกิจนอกเหนือจากความพยายามในการเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าให้มากที่สุด
ทั้งนี้ นายดีเจ โกห์ ได้เดินทางมาเยือนประเทศไทยและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเมื่อวันที่ 10 เม.ย. ก่อนร่วมเปิดงาน “A Galaxy Event” ซึ่งจัดขึ้นที่เมืองทองธานี กรุงเทพมหานคร เพื่อเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ในตระกูลกาแล็กซี่ เอ (Galaxy A) ในระดับโลก อันประกอบด้วย รุ่น A80 และ A70 โดยไฮไลต์อยู่ที่ A80 ซึ่งมาพร้อมกับกล้องที่หมุนได้ครั้งแรกของซัมซุง (Rotating Camera) ทำให้ 3 กล้องหลังเป็น 3 กล้องหน้า ด้วยความละเอียดของภาพ 48 ล้านพิกเซล ภายในงานซัมซุงยังได้เปิดตัววงแบล็คพิ้งค์ กลุ่มนักร้องหญิงจากเกาหลี ในฐานะแบรนด์แอมบาสเดอร์ของกาแล็กซี่ A ทั้ง 2 รุ่นด้วย
นายโกห์ กล่าวว่า ใน 2-3 ปีข้างหน้า คนในยุคมิลเลนเนียล หรือคนรุ่นใหม่ (เกิดระหว่างปี 2527-2539) จะกลายเป็นคนส่วนใหญ่และมีขนาดตลาดมากกว่า 50% ซัมซุงจึงตั้งใจใช้สมาร์ทโฟน กาแล็กซี่ A เป็นตัวเจาะตลาดคนกลุ่มนี้ที่ชื่นชอบเทคโนโลยีและสังคมโซเชียล โดยถือเป็นครั้งแรกที่ซัมซุงเปิดตัวเทคโนโลยีใหม่อย่างกล้องหมุนได้ในมือถือรุ่นที่ไม่ใช่รุ่นใหญ่ราคาแพง (แฟล็กชิป) แต่เลือกเปิดตัวในรุ่นกาแล็กซี่ A ซึ่งเป็นมือถือระดับกลาง.