แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560 –2564) มุ่งเน้นการ “เสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ”
ต้องการให้ “คนไทย” ทุกช่วงวัยมีงานทำอย่างถ้วนทั่ว...สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ที่มั่นคงแก่ผู้เข้าสู่ “ตลาดแรงงาน”
สอดคล้องกับบทบาทและภารกิจของกระทรวงแรงงาน ที่ทำหน้าที่ในการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ของผู้ใช้แรงงานทั้งในและนอกระบบ ให้มีงานทำ มีความรู้ความสามารถ มีโอกาสได้งานทำ มีรายได้ในการประกอบอาชีพ
เดือนมีนาคมที่ผ่านมา พลตำรวจเอกอดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เยี่ยมให้กำลังใจผู้สูงอายุ คนพิการ และยุวแรงงาน ที่บิ๊กซี เอ็กซ์ตร้า พระราม 4 บอกว่า ยุวแรงงานเป็นนักเรียน นักศึกษาที่เข้าร่วมโครงการ “ประชารัฐรวมพลัง สร้างยุวแรงงาน” ทำงานในช่วงปิดภาคเรียน
หรือ...ช่วงว่างจากการเรียน ซึ่งกระทรวงแรงงานได้เปิดรับสมัครนักเรียน นักศึกษาตามโครงการ พร้อมกันทั่วประเทศไปเมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ มียุวแรงงานที่ทำงานกับสถานประกอบการ 8 ร้านค้า จำนวน 41 คน ได้แก่ 1.Swensen’s จำนวน 5 คน 2.ฮาจิบัง ราเมน จำนวน 5 คน 3.Mister Donut จำนวน 3 คน
4.KFC จำนวน 8 คน 5.ร้านตำมั่ว จำนวน 5 คน 6.แมคโดนัลด์ จำนวน 4 คน 7.ภัตตาคารจีนฮองมิน จำนวน 2 คน และ 8.ร้านโออิชิ จำนวน 9 คน เป็นนักเรียนทั้งเพศชายและหญิงในระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และนักศึกษาในระดับอาชีวศึกษา อายุระหว่าง 16-17 ปี
รายละเอียดงานจะทำงาน ณ จุดเรียงสินค้า จุดบริการ ซึ่งการจ้างงานจะมี 2 ช่วง ได้แก่ หนึ่ง...ช่วงเปิดภาคเรียน ระยะเวลาทำงาน 4 ชั่วโมง
สอง...ช่วงปิดภาคเรียน ระยะเวลาทำงาน 8 ชั่วโมง/วัน (พักเที่ยง 1 ชั่วโมง) โดยสิ่งที่ยุวแรงงานจะได้รับจากการเข้าร่วมโครงการคือ การเพิ่มพูนทักษะอาชีพที่สอดคล้อง...ตรงกับความต้องการของตลาดแรงงานในประเทศ มีพื้นฐานในการก้าวเข้าสู่วัยแรงงานที่มีคุณภาพ สามารถเพิ่มผลิตภาพให้กับประเทศได้
นอกจากนี้ ยังได้ฝึกความอดทน ระเบียบวินัย เรียนรู้ชีวิตการทำงานจริงเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนที่จะเข้าสู่ตลาดแรงงาน มีรายได้ระหว่างเรียน ช่วยแบ่งเบาภาระผู้ปกครอง เห็นคุณค่าของเงิน สร้างความภูมิใจให้กับตนเอง ซึ่งเป็นการวางรากฐานในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มแรงงาน “ผู้สูงอายุ” ที่ทำงาน ณ จุดเคาน์เตอร์บริการลูกค้า ที่บิ๊กซีฯ 1 คน อายุ 65 ปี มีประสบการณ์ด้านการแนะนำสินค้า และมีความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ...ภาษาจีน
พลตำรวจเอกอดุลย์ บอกว่า การรับเข้าทำงานหรือการจ้างงานผู้สูงอายุนั้น จะรับเข้าทำงานเป็นพนักงานรายเดือน ไม่ต้องทดลองงาน พิจารณาจากประสบการณ์ในการทำงานประกอบการจ้างงาน อัตราค่าจ้างเดือนละ 12,500 บาท
สำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยข้อมูลการทำงานของ “ผู้สูงอายุ” ในประเทศไทยปี 2560 ในจำนวนผู้สูงอายุร้อยละ 16.8 ของประชากรทั้งหมด พบว่า มีผู้สูงอายุทำงาน 4.06 ล้านคน หรือร้อยละ 35.8 ของผู้สูงอายุทั้งหมด และนับวันจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แยกเป็นชาย 2.36 ล้านคน...เป็นหญิง 1.70 ล้านคน
แยกตามภาค...ตะวันออกเฉียงเหนือมีผู้สูงอายุทำงานมากที่สุดอยู่ที่ 1.45 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 35.8 รองลงมา...ภาคเหนือ 9.2 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 22.6 อันดับสาม...ภาคกลางอยู่ที่ 9.08 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 22.3 อันดับสี่...ภาคใต้ 5.31 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 13.1
และอันดับสุดท้าย...กรุงเทพมหานคร 2.5 แสนคน คิดเป็นร้อยละ 6.2
หากมองในมุม “อาชีพของผู้สูงอายุ” จะแบ่งออกเป็นกลุ่มใหญ่ๆคือ แรงงานในระบบ 4.77 แสนคน และ...แรงงานนอกระบบ 3.59 ล้านคน
9 อันดับอาชีพผู้สูงอายุ หนึ่ง...ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือด้านการเกษตรฯ สัดส่วน 56.5% สอง...พนักงานบริการและผู้จำหน่ายสินค้า 19.6% สาม...ช่างฝีมือและผู้ปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง 8.6% สี่...ผู้ประกอบวิชาชีพงานพื้นฐาน 7.2% ห้า...ผู้ปฏิบัติงานด้านการประกอบ 3.1% หก...ผู้จัดการ ข้าราชการระดับอาวุโสฯ 2.8%
เจ็ด...ผู้ประกอบวิชาชีพด้านต่างๆ 1.2% แปด...เจ้าหน้าที่เทคนิคฯ 0.7% และ อันดับสุดท้าย...เสมียน 0.3%
สำหรับอัตรา “ค่าจ้าง” เท่าที่มีการเก็บข้อมูลสรุปตัวเลขเฉลี่ยรายได้ต่อเดือนอยู่ที่ประมาณ 11,600 บาท โดยแยกเป็นสาขาอาชีพในแต่ละภาคได้เช่น...ภาคการผลิต อยู่ที่ 10,860 บาทต่อเดือน...ภาคเกษตรกรรม อยู่ที่ 4,874 บาทต่อเดือน...ภาคการค้าและบริการ อยู่ที่ 15,838 บาทต่อเดือน
ในแง่สภาพการทำงาน พบว่า สัดส่วนสูงสุด ร้อยละ 61.6 คือผู้สูงอายุที่ประกอบธุรกิจส่วนตัวโดยไม่มีลูกจ้าง รองลงมา...ช่วยธุรกิจครัวเรือน ร้อยละ 20 อันดับสาม...ลูกจ้างเอกชน ร้อยละ 12.2 อันดับสี่...นายจ้าง ร้อยละ 3.8 อันดับห้า...ลูกจ้างรัฐบาล ร้อยละ 2.2 และอันดับที่หก...การรวมกลุ่ม ร้อยละ 0.2 ปัจจัยการบาดเจ็บของผู้สูงอายุ เรียงลำดับจากน้อยไปหามาก ได้แก่ ถูกของมีคมบาด/ทิ่ม/แทง, พลัดตกหกล้ม, การชน/กระแทก, ถูกไฟ/น้ำร้อนลวก, ได้รับสารเคมีที่เป็นอันตราย และอุบัติเหตุจากยานพาหนะ
ข้อมูลรายละเอียดการทำงานของผู้สูงอายุเป็นเช่นนี้ ประเด็นสำคัญที่จำเป็นต้องคำนึงถึงมีว่า...หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องต้องกำหนดนโยบาย และมาตรการเพื่อช่วยเหลือ ส่งเสริมการทำงานของ “ผู้สูงอายุ” ให้รองรับกับโครงสร้างประชากรที่เปลี่ยนแปลงอย่างครบถ้วนรอบด้าน
และอีกกลุ่มแรงงานที่ห้ามลืมเยี่ยม...ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ “คนพิการ” ซึ่งจะทำงานอยู่ในจุดเรียงสินค้า 5 คน แยกเป็นกลุ่มคนพิการทางการได้ยิน 2 คน...ทางการเคลื่อนไหว 2 คน...ทางสายตา (สายตาเลือนราง) 1 คน
พลตำรวจเอกอดุลย์บอกว่า การจ้างงานก็เป็นแบบพนักงานรายเดือน ไม่ต้องทดลองงานเหมือนกัน โดยมีระยะเวลาทำงาน วันละ 8 ชั่วโมง มีเวลาพักเที่ยง 1 ชั่วโมง
ประเด็นสำคัญต้องยอมรับความจริงที่ว่า...“คนพิการ” ยังได้รับโอกาสในการ “จ้างงาน” น้อย ด้วยความเชื่อที่ว่า “ผู้พิการ” ไม่มีความสามารถ หรือมีความสามารถที่จำกัดและเป็นภาระ
แน่นอนว่าการขับเคลื่อนให้ผู้พิการเป็นหนึ่งในพลังสำคัญของสังคมจะต้องทำให้ความเชื่อของคนในสังคมเปลี่ยนก่อน...ให้มีทัศนคติต่อผู้พิการในทางสร้างสรรค์ มีศักยภาพเช่นเดียวกับคนทั่วไป
การส่งเสริม “ผู้พิการ” ให้มี “งานทำ” เป็นสิ่งที่สร้างประโยชน์อย่างมาก เป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม
ทั้งหมดเหล่านี้ต้องบอกว่า ไม่ว่าจะเป็น...นักเรียน นักศึกษา ผู้สูงอายุ คนพิการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปหากสนใจที่จะหางานทำ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อได้ที่สำนักงานจัดหางานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานจัดหางานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-10
หรือโทร.ไปได้ที่ “สายด่วนกระทรวงแรงงาน” 1506 กด 2 กรมการจัดหางาน
อนาคต “ไทยแลนด์ 4.0”...ฝากไว้กับปัจจุบัน แรงงานไทยยุค 4.0 ลดเหลื่อมล้ำ...ต้องสร้างฐานที่เข้มแข็งให้ครบทุกมิติ.