นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยในงานสัมมนาเรื่อง “5 จี ปลุกไทยที่ 1 อาเซียน” ว่า ความท้าทายของกสทช.ในยุค 5 จี นอกจากการประมูลคลื่นความถี่แล้ว ยังต้องเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ และการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการใช้จ่ายโครงข่ายอินเตอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศ (ไอไอจี) ด้วย และการทำให้โครงข่ายโทรคมนาคม ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานของประเทศแข็งแกร่ง ด้วย เพื่อเป็นแม่เหล็กในการดึงดูดให้นักลงทุนต่างประเทศหันมาลงทุน ในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น
ทั้งนี้ กสทช.จำเป็นต้องผลักดันให้เกิดบริการ 5 จี ในประเทศไทย โดยตั้งเป้าหมายว่าในปี 2578 จะมีการสร้างมูลค่าเพิ่มจาก 5 จี ราว 2.3 ล้านล้านบาท แบ่งเป็นภาคเกษตร หรือสมาร์ทฟาร์เมอร์ 96,000 ล้านบาท โลจิสติกส์สมาร์ท 124,000 ล้านบาท การผลิต 634,000ล้านบาท ส่วนที่เหลือเป็นภาคสาธารณสุข และอื่นๆ แต่หากไทยไม่เร่งผลักดัน 5 จี อาจจะสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจไปเช่นกัน
สำหรับการจัดเก็บรายได้จากการใช้โซเชียลมีเดีย หรือสังคมออนไลน์ที่เป็นบริการโอทีที (OVER THE TOP : OTT) ส่วนใหญ่เป็นบริการจากต่างประเทศ อาทิ เฟซบุ๊ก ยูทูบ ไลน์ เป็นต้นนั้น โดย กสทช.มีแนวคิดที่จะจัดเก็บรายได้จากการใช้โครงข่ายอินเตอร์เน็ตเกตเวย์ระหว่างประเทศเป็นหลัก ส่วนหลักเกณฑ์จะเป็นลักษณะอย่างไรนั้น ต้องรอผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (ไอเอสพี) และไอจีจี จัดทำข้อมูลส่งมาให้ กสทช.พิจารณาว่า เฟซบุ๊ก ไลน์ ยูทูบ มีการใช้งานโครงข่ายอินเตอร์เน็ตระหว่างประเทศจำนวนเท่าใด เพื่อนำมาคำนวณการจัดเก็บรายได้.