ประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน ทอท.รวมให้รายเดียวไม่แยกสัญญา

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบิน ทอท.รวมให้รายเดียวไม่แยกสัญญา

Date Time: 13 มี.ค. 2562 08:01 น.

Summary

  • ทอท.ได้ฤกษ์เปิดขายซองประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบินรวม 1 สัญญาให้เอกชนบริหารรายเดียว และบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิอีก 1 สัญญา เปิดขายซอง 19 มี.ค.นี้

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%

ทอท.ได้ฤกษ์เปิดขายซองประมูลดิวตี้ฟรี 4 สนามบินรวม 1 สัญญาให้เอกชนบริหารรายเดียว และบริหารพื้นที่เชิงพาณิชย์สนามบินสุวรรณภูมิอีก 1 สัญญา เปิดขายซอง 19 มี.ค.นี้ มั่นใจนักลงทุนไทย-เทศสนใจตรึม ก่อนลุยเปิดเสรีประมูล “พิคอัพเคาน์เตอร์” ต่อ แย้มเหตุรวมสัญญา-ไม่แยกประเภทสินค้า ป้องกันข้อได้เปรียบเสียเปรียบยอดขายแต่ละสนามบินไม่เท่ากัน

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ทอท.ได้ออกประกาศ 2 ฉบับเพื่อเชิญชวนเอกชนให้เข้าร่วมประมูลสิทธิประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ, สนามบินภูเก็ต, สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินหาดใหญ่ เพียงรายเดียว เป็นเวลา 10 ปี และเปิดขายซองประมูลให้เอกชน เข้ามาประกอบกิจการบริหารจัดการเชิงพาณิชย์ ภายในสนามบินสุวรรณภูมิ เพียงรายเดียว มีเวลา 10 ปี ทั้งนี้ ทอท.จะเปิดขายซองตั้งแต่ 19 มี.ค.-1 เม.ย.นี้ และจะต้องคัดเลือกประกาศผลได้เอกชนเข้าทั้ง 2 สัญญา ภายใน 10 พ.ค.62 ก่อนที่จะรายงานบอร์ด ทอท.ภายในเดือน มิ.ย.ก่อนรายงานให้ ครม.รับทราบ

นอกจากนั้น หลัง ทอท.ได้ตัวเอกชนเข้ามาดำเนินการดิวตี้ฟรี และ พื้นที่เชิงพาณิชย์แล้ว จะเร่งเปิดประมูลคัดเลือกเอกชนที่จะเข้ามาบริหารจัดการพื้นที่รับส่งสินค้า หรือพิคอัพเคาน์เตอร์แบบเสรีและเปิดกว้างต่อไปทันที ซึ่งมั่นใจว่าจะได้เอกชนทันภายในสิ้นปี 62 ส่วนจะเป็นเอกชนกี่รายนั้น ทอท.จะเปิดกว้างให้มีเอกชนหลายราย

สาเหตุที่ ทอท. รวมสัญญา 4 สนามบิน มีเอกชนรายเดียวเป็นผู้บริหารจัดการ และไม่แยกประเภทสินค้า เนื่องจากได้ศึกษาและรับฟังข้อคิดเห็นผู้ประกอบการ รวมถึงนักวิชาการแล้ว พบว่าหากรวมสัญญาจะทำให้ข้อได้เปรียบเสียเปรียบในเรื่องจำนวนผู้โดยสาร ปริมาณการขาย รายได้ การลงทุนสต๊อกสินค้าที่แตกต่างกันของแต่ละสนามบินหมดไป เพราะจากสถิติพบว่าสนามบินสุวรรณภูมิจะมีปริมาณการจำหน่ายสินค้าดิวตี้ฟรีสูงถึง 82%, สนามบินภูเก็ตมียอดจำหน่าย 8-12%, สนามบินเชียงใหม่มียอดจำหน่าย 5% ขณะที่สนามบินหาดใหญ่มียอดจำหน่าย เพียง 0.04% เท่านั้น ดังนั้น จึงทำให้เห็นว่าหากมีการแยกสัญญาแยกสนามบินจะทำให้เกิดข้อได้เปรียบเสียเปรียบ ในเรื่องการลงทุนของแต่ละผู้ประกอบการได้

นอกจากนี้มีความมั่นใจว่าเมื่อเปิดขายซองให้เอกชนที่สนใจเข้ามาร่วมประมูล จะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการดิวตี้ฟรี และเชิงพาณิชย์ ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศจำนวนมากแน่นอน เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้มีนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ เข้ามาขอข้อมูลเพื่อประกอบการพิจารณาตัดสินใจจำนวนมาก ประกอบกับธุรกิจดิวตี้ฟรีขณะนี้เป็นที่สนใจ โดยเอกชนที่ผ่านการคัดเลือกทั้ง 2 กลุ่มมีระยะเวลาสัญญาตั้งแต่ 28 ก.ย.63-31 มี.ค.74.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ