ปีหมูทองทุ่มลงทุน 6 หมื่นล้าน เอสซีจีคาดตลาดปูนได้แรงหนุนภาครัฐ

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ปีหมูทองทุ่มลงทุน 6 หมื่นล้าน เอสซีจีคาดตลาดปูนได้แรงหนุนภาครัฐ

Date Time: 31 ม.ค. 2562 07:03 น.

Summary

  • เอสซีจีฟันธงปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่ม รับแรงหนุนจากก่อสร้างภาครัฐ ปี 62 เดินหน้าอัดงบลงทุน 60,000 ล้านบาท ดันยอดรายได้โต 5% หลังโกยรายได้รวมปี 61 อื้ออึง 4.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

Latest

"สถิตย์" ยันไม่มีใบสั่งการเมือง "กิตติรัตน์" พร้อมรับเสียงหนุน-ติงนั่งประธาน ธปท.

เอสซีจีฟันธงปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์เพิ่ม รับแรงหนุนจากก่อสร้างภาครัฐ ปี 62 เดินหน้าอัดงบลงทุน 60,000 ล้านบาท ดันยอดรายได้โต 5% หลังโกยรายได้รวมปี 61 อื้ออึง 4.78 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% ส่วนกำไรสุทธิเหลือ 4.4 หมื่นล้านบาท ลดลง 19% หลังเจอพิษสงครามการค้า-น้ำมันผันผวน-เงินบาทแข็งโป๊ก พร้อมเดินหน้าหาโมเดลธุรกิจใหม่ใช้เทคโนโลยีหนุนธุรกิจ

นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ เอสซีจี เปิดเผยว่า งบการเงินรวมก่อนตรวจสอบของเอสซีจี ประจำปี 61 มีรายได้รวม 478,438 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน แต่กำไรสุทธิอยู่ที่ 44,748 ล้านบาท ลดลง 19% จากปีก่อน เป็นผลจากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก สถานการณ์สงครามการค้า ราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ผันผวน และเงินบาทแข็งค่า ส่วนปี 2562 บริษัทมีแผนทุ่มลงทุน 60,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ที่ลงทุน 46,000 ล้านบาท พร้อมตั้งเป้าดันยอดรายได้เติบโต 5%

“ปี 61 เอสซีจีมียอดขายสินค้า แยกเป็นหมวดหมู่ดังนี้ สินค้าและบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม 184,965 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อน คิดเป็น 39% ของยอดขายรวม โดยใช้งบลงทุนด้านวิจัยและพัฒนานวัตกรรมกว่า 4,674 ล้านบาท คิดเป็น 1% ของยอดขายรวม ส่วนผลการดำเนินงานของเอสซีจี นอกเหนือจากไทยในปี 61 มีรายได้จากการขายในภูมิภาคอาเซียน 118,014 ล้านบาท คิดเป็น 25% ของรายได้รวม เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน และมีรายได้จากการขายในภูมิภาคอื่นๆ 86,155 ล้านบาท คิดเป็น 18% รายได้ขาย สินทรัพย์รวมของเอสซีจี ณ วันที่ 31 ธ.ค.61 มีมูลค่า 589,787 ล้านบาท โดย 28% เป็นสินทรัพย์ในอาเซียน”

ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 61 แยกตามรายธุรกิจ ดังนี้ ธุรกิจเคมิคอลส์ มีรายได้จากการขาย 221,538 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% จากปีก่อน จากปริมาณการขายและราคาขายของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มขึ้น โดยมีกำไรสำหรับปี 29,166 ล้านบาท ลดลง 29% จากปีก่อน จากวัฏจักรอุตสาหกรรมปิโตรเคมีที่อ่อนตัวลง

สำหรับธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง มีรายได้จากการขาย 182,952 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% จากปีก่อน ตามการขยายตัวของความต้องการใช้ซีเมนต์ในประเทศที่เพิ่มขึ้นจากโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ รวมถึงการฟื้นตัวของโครงการอสังหาริมทรัพย์ และการขยายตัวของการก่อสร้างในภูมิภาค โดยมีกำไรสำหรับปีนี้อยู่ที่ 5,984 ล้านบาท ลดลง 7% สาเหตุหลักจากการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชีในไตรมาสที่ 3 ปี 61 ทั้งนี้ เมื่อไม่รวมการปรับลดมูลค่าสินทรัพย์ทางบัญชี กำไรสำหรับปีจะเท่ากับ 7,304 ล้านบาท

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปีนี้ปริมาณการใช้ปูนซีเมนต์ในประเทศจะเติบโตได้ 3-5% จากปี 61 ที่เติบโตเพียง 3% โดยประเมินความต้องการใช้ปูนขยายตัวในครึ่งปีแรก โดยกลยุทธ์หลักปีนี้จะเน้นสร้างเสถียรภาพการเงินและการจัดการความเติบโตของธุรกิจในระยะยาว โดยการส่งมอบโซลูชันครบวงจรและโมเดลธุรกิจใหม่ นำเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูงมาใช้ ร่วมมือกับสตาร์ตอัพชั้นนำในหลากหลายภูมิภาคและสถาบัน วิจัยทั่วโลก.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ