นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยความคืบหน้าโครงการคัดเลือกเอกชนเข้าร่วมลงทุนพัฒนาท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ขั้นที่ 3 ท่าเรือ F วงเงินลงทุนกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ว่า
ขณะนี้ได้มีการปรับเงื่อนไขเอกสารการประกวดราคา (ทีโออาร์) โดยลดข้อจำกัดจากเดิมที่ไม่เอื้อ ให้เอกชนเข้ามาซื้อซองในการเปิดประมูลครั้งแรก เช่น ประสบการณ์การบริหารท่าเรือ เป็นต้น ซึ่งมั่นใจว่าจะทำให้เอกชนเข้ามายื่นซองมากขึ้น ทั้งนี้การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้เปิดขายซองรอบแก้ไขไปแล้วตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีเอกชนให้ความสนใจเข้ามาซื้อซองใหม่จำนวน 1 ราย คือ บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ส่วนเอกชน 32 รายที่ซื้อซองไปแล้วขณะนี้ได้ทยอยเข้ามาซื้อซองฉบับแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นการซื้อเพิ่มเติมในราคา 5,350 บาท โดยไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด
“นับตั้งแต่วันเปิดขายซองเอกสารรอบใหม่ เมื่อ 28 ม.ค.62 มีเอกชนให้ความสนใจเข้ามาซื้อซองใหม่จำนวน 1 ราย คือ บริษัท กัลฟ์ เอนเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขณะที่เอกชน 32 ราย ที่ซื้อซองไปแล้วเมื่อครั้งก่อน ขณะนี้ได้ทยอยเข้ามาซื้อซองฉบับแก้ไขแล้ว ซึ่งเป็นการซื้อเพิ่มเติมในราคา 5,350 บาท โดยไม่ต้องซื้อใหม่ทั้งหมด อย่างไรก็ดี มั่นใจว่าอีก 3-4 เดือนหลังจากนี้จะเริ่มเห็นความชัดเจนของโครงการในพื้นที่พัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และเมื่อมีรัฐบาลใหม่เข้ามานั้นก็จะต้องสานต่อโครงการ”
นายสตีเฟน แอชเวิร์ธ กรรมการผู้จัดการฮัทชิสัน พอร์ท ประจำประเทศไทย และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า ทางฮัทชิสันยังให้ความสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการแหลมฉบัง เฟส 3 โดยอยู่ระหว่างขั้นตอนการศึกษาเอกสารทีโออาร์ใหม่ พร้อมประสานหาพันธมิตรเข้ารวม กลุ่มเพื่อร่วมประมูล ซึ่งเบื้องต้นจะเข้ามาซื้อซองทีโออาร์เพิ่มเติมแน่นอน.