เปิดปมข้อขัดแย้งตระกูลณรงค์เดช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเปิดแถลงข่าวครั้งแรกของครอบครัวณรงค์เดช ที่นำโดยนายเกษม ณรงค์เดช พร้อมด้วยนายกฤษณ์ ณรงค์เดช และนายกรณ์ ณรงค์เดช ถึงความขัดแย้งภายในครอบครัวที่เกิดกับลูกชายคนกลางคือ นายณพ ณรงค์เดช ซึ่งมีจุดเริ่มต้นความขัดแย้งจากการชักนำครอบครัวณรงค์เดช เข้าไปซื้อหุ้นบริษัทวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ โฮลดิ้งส์ (WEH) จากนายนพพร ศุภพิพัฒน์ เจ้าของหุ้นเดิมที่ขณะนี้ตกเป็นนักโทษหนีคดีอาญาไปอยู่ในต่างประเทศ

ประเมินจากแผนผังการยักย้ายเปลี่ยนมือการถือหุ้นวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯของตระกูลณรงค์เดช หลังซื้อมาจากนพพร (ที่ขณะนี้นพพรได้เดินหน้าฟ้องศาลทั้งในและต่างประเทศเพื่อเรียกหุ้นคืนจากณพและครอบครัวณรงค์เดช โดยอ้างว่ายังจ่ายเงินค่าหุ้นไม่ครบ) ซึ่งทีมทนายของครอบครัวแกะรอยมาได้ จากคดีความต่างๆที่ผู้เป็นพ่อโดนหมายศาล พบว่าหลังจากทำสัญญาซื้อหุ้นจากนพพรแล้ว บริษัทเคพีเอ็น เอนเนอร์ยี (ประเทศไทย) ก็มีชื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นวินด์ เอ็นเนอร์ยี่ฯ ในสัดส่วน 59.46%

และในวันที่ 25 เม.ย.59 มีการโอนหุ้นจากเคพีเอ็น เอนเนอร์ยีฯ มาเป็นชื่อนายเกษม ผู้พ่อ (ซึ่งนายเกษมมารู้ทีหลังและมีลายเซ็นการรับโอนหุ้นที่นายเกษมระบุว่าเป็นลายเซ็นปลอม) จากนั้นมีการโอนจากนายเกษมไปยังบริษัทโกลเด้นมิวสิคฯ ซึ่งตั้งอยู่เกาะฮ่องกง แต่ยกนายเกษมขึ้นไปเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในโกลเด้นมิวสิคฯ แต่เหลือหุ้นวินด์ฯที่ถือโดยโกลเด้นมิวสิคฯเพียง 37.87% เท่านั้น จากเดิม 59.46% หายไป 21.59%

จากนั้นจึงพบว่ามีชื่อคุณหญิงกอแก้ว บุณยะจินดา เข้ามาถือหุ้นในโกลเด้นมิวสิคฯแทนชื่อนายเกษม ซึ่งเป็นผลจากการทำเอกสารสัญญาแต่งตั้งตัวแทน ที่ทำระหว่างนายเกษมกับคุณหญิงกอแก้ว ประหนึ่งว่าให้นายเกษมถือหุ้นแทนคุณหญิงกอแก้ว เพราะมีการลงนามในสัญญาตัวแทนวันที่ 25 เม.ย.59 วันเดียวกับที่มีการโอนเปลี่ยนชื่อผู้ถือหุ้นวินด์จากเคพีเอ็น เอนเนอร์ยี มาเป็นชื่อนายเกษม ซึ่งเป็นที่มาให้พ่อพร้อมพี่และน้อง ฟ้องณพและคุณหญิงกอแก้วในอาญาคดีใช้เอกสารปลอม.