กรมบัญชีกลาง กำหนดวันจ่ายเงิน 4 มาตรการช่วยเหลือเพิ่มเติม ผู้ถือบัตรคนจน ประเดิมเงินปีใหม่ 500 บาท ลอตแรก 11.4 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 ธ.ค. ที่เหลืออีก 3.1 ล้านคน เริ่ม 5 ม.ค....
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. น.ส.สุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (20 พ.ย.) เห็นชอบมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 4 มาตรการ โดยให้ความช่วยเหลือจำนวน 10 เดือน (ธ.ค.61-ก.ย.62) กรมบัญชีกลางในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องการจ่ายเงินช่วยเหลือตามมาตรการดังกล่าว ได้เตรียมความพร้อมทั้งข้อมูลและระบบในการจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ไว้พร้อมแล้ว รวมทั้งได้กำหนดระยะเวลาในการจ่าย
สำหรับมีรายละเอียดดังนี้ 1.มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา โดยค่าไฟฟ้า ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ใช้สิทธิจากมาตรการค่าไฟฟ้าฟรี (ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 50 หน่วยต่อเดือน ติดต่อกันเป็นระยะเวลา 3 เดือน) ให้ใช้สิทธิค่าไฟฟ้าฟรีตามมาตรการเดิมที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากใช้ไฟฟ้าเกิน 50 หน่วยต่อเดือน ให้ใช้สิทธิตามมาตรการใหม่ ซึ่งต้องใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 230 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้ไฟฟ้าเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าไฟฟ้าทั้งหมด (มาตรการนี้ใช้สิทธิได้เฉพาะค่าไฟฟ้าของการไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค)
ส่วนค่าน้ำประปา ผู้มีสิทธิในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำประปาไม่เกิน 100 บาทต่อครัวเรือนต่อเดือน หากใช้น้ำประปาเกินวงเงินที่กำหนด ผู้มีสิทธิต้องเป็นผู้รับภาระค่าน้ำประปาทั้งหมด (มาตรการนี้ใช้สิทธิได้เฉพาะค่าน้ำประปาของการประปานครหลวง/การประปาส่วนภูมิภาค)
ทั้งนี้ การใช้สิทธิตามมาตรการใหม่ ผู้มีสิทธิจะต้องชำระเงินค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปาไปก่อน ตามใบแจ้งหนี้ประจำเดือนที่การไฟฟ้านครหลวง/การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง/การประปาส่วนภูมิภาคเรียกเก็บจากการใช้ไฟฟ้า/น้ำประปา ของเดือน ธ.ค.6-ก.ย.62 โดยสามารถชำระเงินได้ทุกช่องทาง ได้แก่ ชำระเงินที่สำนักงานการไฟฟ้า/ประปา หรือตัวแทนจุดบริการรับชำระเงิน Application Internet Banking หักบัญชีเงินฝากธนาคาร/บัญชีบัตรเครดิต และตัวแทนเก็บเงิน เป็นต้น
อย่างไรก็ตามทางการไฟฟ้า และการประปา จะประชาสัมพันธ์แนวทางปฏิบัติให้ทราบต่อไป โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินชดเชยค่าไฟฟ้า/น้ำประปา เข้ากระเป๋าเงิน e-Money ตามจำนวนที่ผู้มีสิทธิได้ชำระไว้ตามจริง ทุกวันที่ 18 ของเดือน โดยเริ่มจ่ายเดือนแรก 18 ก.พ.62
ส่วน 2.มาตรการสนับสนุนค่าใช้จ่ายในช่วงปลายปีให้แก่ผู้มีรายได้น้อย จำนวน 500 บาทต่อคน จำนวน 14.5 ล้านคน ซึ่งจ่ายให้เพียงครั้งเดียว โดยกรมบัญชีกลางจะทยอยจ่ายเงินเข้ากระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ให้กับผู้ที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว จำนวน 11.4 ล้านคน ภายในวันที่ 8-10 ธ.ค.61 และจะจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติม ภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน ในกลุ่มผู้พิการ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมาลงทะเบียนได้ในปี 2560 ในวันที่ 5 ม.ค.62 และ 1 ก.พ.62
3.มาตรการช่วยเหลือค่าเดินทางไปรับการรักษาพยาบาลและค่าใช้จ่ายอื่นเกี่ยวกับสุขภาพ สำหรับผู้มีสิทธิที่มีอายุครบ 65 ปีขึ้นไป จะได้รับเงินจำนวน 1,000 บาทต่อคน เพียงครั้งเดียว โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินเข้ากระเป๋าเงิน e-Money ให้กับผู้มีสิทธิที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐแล้ว ทุกวันที่ 21 ของเดือน โดยเริ่มจ่ายเดือนแรก 21 ธ.ค.61 ทั้งนี้ หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 65 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือน ธ.ค.61-ก.ย.62 จะได้รับเงินวันที่ 21 ของเดือนเกิด สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืน จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 ม.ค.62 และ 1 ก.พ.62 หลังจากนั้นจะได้รับเงินทุกวันที่ 21 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน
4.มาตรการช่วยเหลือค่าเช่าบ้าน สำหรับผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยที่มีอายุครบ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งมีภาระค่าเช่าบ้านและไม่มีที่พักอาศัย จะได้รับเงินช่วยเหลือจำนวน 400 บาทต่อคนต่อเดือน โดยกรมบัญชีกลางจะโอนเงินให้กับผู้มีสิทธิ ทุกวันที่ 12 ของเดือน โดยเริ่มจ่ายเดือนแรก 12 ธ.ค.61 หากผู้มีสิทธิรายใดมีอายุครบ 60 ปีบริบูรณ์ในระหว่างเดือน ธ.ค.61-ก.ย.62 จะได้รับเงินในเดือนเกิดเป็นครั้งแรกจนสิ้นสุดมาตรการ สำหรับผู้มีสิทธิที่ลงทะเบียนเพิ่มเติมภายใต้โครงการไทยนิยม ยั่งยืนฯ จะเริ่มจ่ายในวันที่ 5 ม.ค.62 และวันที่ 1 ก.พ.62 เป็นครั้งแรก จากนั้นจะโอนเงินช่วยเหลือให้ทุกวันที่ 12 ของเดือนเกิดเช่นเดียวกัน
พร้อมย้ำมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจำนวน 4 มาตรการ ทางรัฐบาลมุ่งหวังที่จะช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยในการลดภาระค่าครองชีพ และยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้มีรายได้น้อยได้อย่างยั่งยืน.