"สนธิรัตน์" สั่งเร่งเพิ่มร้านธงฟ้าประชารัฐ ใช้แอป "ถุงเงินประชารัฐ" รองรับบัตรคนจนเพิ่มขึ้น เตรียมเปิดตัวสินค้าราคาถูก 11 ธ.ค.นี้ ดึงทีม “อูเล่ โมเดล” ของมหาเศรษฐีฮ่องกง ติวเข้มร้านรายย่อย ขายออนไลน์...
เมื่อวันที่ 30 พ.ย. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า จะเร่งรัดผลักดันให้ร้านค้ารายย่อยในตลาดสด ร้านค้าทั่วไป ร้านขายอาหารสำเร็จรูป สมัครเข้าร่วมโครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐแบบใช้มือถือในการรับชำระค่าสินค้าจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือแอปพลิเคชัน ถุงเงินประชารัฐ ให้ได้ 100,000 ราย ภายในสิ้นเดือน ธ.ค.61 หลังจากที่ปัจจุบันมีผู้สมัครเข้ามาแล้วกว่า 32,000 ราย เพื่อรองรับการใช้จ่ายของผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่เพิ่มเข้ามาในระบบอีก 3.08 ล้านราย ที่จะเริ่มใช้บัตรซื้อสินค้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.62 เป็นต้นไป
“ขอให้เร่งรัดรับสมัครร้านค้ารายเล็กรายน้อยให้เข้าเป็นร้านค้าธงฟ้าประชารัฐโดยเร็ว เพราะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็น 14.5 ล้านราย ถือเป็นกำลังซื้อที่สำคัญ จากการที่รัฐบาลได้ช่วยเหลือค่าครองชีพเข้าไปในบัตรเดือนละกว่า 4,000 ล้านบาท เมื่อมีจำนวนผู้ถือบัตรเพิ่มขึ้น วงเงินจะสูงขึ้นตามไปด้วย และเงินเหล่านี้ จะถูกนำไปใช้จ่ายในร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ถ้าร้านค้ารายเล็กรายน้อยเข้าร่วมโครงการ จะได้ประโยชน์จากการมาใช้จ่ายของผู้ถือบัตร โดยรัฐบาลประเมินแล้วเกิดประโยชน์จริง จึงได้อนุมัติงบดำเนินโครงการไปจนถึงเดือน ก.ย.62”
นอกจากนี้ ยังมีแผนเพิ่มทางเลือกในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคราคาถูกให้กับผู้ถือบัตร โดยได้หารือกับผู้ผลิตสินค้าในการผลิตสินค้าป้อนให้กับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ โดยจะเปิดตัววันที่ 11 ธ.ค.61 ซึ่งจะมีสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพหลากหลายรายการมาจำหน่าย และเมื่อเปิดตัวแล้ว จะกระจายสินค้าเข้าสู่ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ เพื่อให้ผู้ถือบัตรซื้อได้ทันที และยังเปิดกว้างสำหรับผู้ผลิตทุกรายให้เข้าร่วมโครงการได้
สำหรับการพัฒนาให้ร้านค้ารายย่อย ร้านค้าในชนบท ร้านโชห่วย รวมถึงร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ค้าขายออนไลน์ได้นั้น ได้หารือกับผู้บริหารของบริษัท TOM Group ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัท อูเล่ และเป็นบริษัทในเครือของลีกาชิง มหาเศรษฐีของฮ่องกง ได้ตกลงที่จะส่งทีมมาให้คำแนะนำกับไทยในช่วงเดือน ม.ค.62 เพื่อให้นำอูเล่โมเดลไปใช้ผลักดันให้ร้านค้ารายย่อยของไทยสามารถขายสินค้าออนไลน์ได้
ทั้งนี้ อูเล่โมเดล เป็นโครงการที่จีนได้นำมาใช้ในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับร้านค้าในชนบท โดยไปรษณีย์ของจีน ได้ร่วมมือกับบริษัท TOM Group เปิดแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ www.Ule.com ให้ร้านค้าในชนบททั่วประเทศ นำสินค้าเข้าไปจำหน่ายในเว็บไซต์ และเมื่อมีคนสั่งซื้อสินค้า ไปรษณีย์ก็จะเป็นผู้รับสินค้านำไปจัดส่งให้ ซึ่งจะนำรูปแบบนี้มาใช้กับไทย เพื่อช่วยเหลือร้านค้าในชนบท ร้านค้ารายย่อยให้สามารถค้าขายออนไลน์ได้.