นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) วานนี้ (26 พ.ย.) มีมติเห็นชอบให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) จำหน่ายโอนทรัพย์สินโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ไปให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) โดยให้โอนหนี้เงินกู้ของโครงการทั้งหมด ที่สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) กระทรวงการคลังเป็นผู้ดูแล จาก รฟม.ไปเป็นหนี้ของ กทม. และต้องชำระหนี้แทน ซึ่งมีทรัพย์สินรวม 51,785 ล้านบาท ส่วนวันที่ 3 ธ.ค.นี้ จะมีพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่าง รฟม.และ กทม. อย่างไรก็ตาม รฟม.จะไม่โอนอาคารจอดรถ หรืออาคารจอดแล้วจรของสายสีเขียว 1 แห่ง ที่สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต-คูคต มี 2 อาคาร ให้ กทม. เพราะ รฟม.บริหารระบบจอดรถ และเก็บค่าบริการเป็นมาตรฐานเดียวกันในทุกอาคารจอดรถ และลานจอดรถ หากโอนให้ กทม.อาจมีมาตรฐานต่างกัน และอาจเกิดปัญหาได้ นอกจากนี้ ลานจอดรถที่สมุทรปราการ ได้ลงนามเอ็มโอยูกับการเคหะแห่งชาติแล้ว เพื่อพัฒนาพื้นที่ด้านบนเป็นที่อยู่อาศัย
สำหรับการก่อสร้างรถไฟฟ้าช่วงแบริ่ง-สมุทรปราการ ปัจจุบันติดตั้งระบบอาณัติสัญญาณและการเดินรถเสร็จแล้ว ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเป็นประธานในพิธีทดสอบการเดินรถ ซึ่งจะให้ประชาชนทดลองใช้บริการแบบไม่เก็บค่าโดยสาร 3-4 เดือน คาดว่าจะเก็บค่าโดยสารได้หลังสงกรานต์ปี 62 ด้านนายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการ รฟม. กล่าวว่า ยอดโอนทรัพย์สิน 51,785 ล้านบาท เป็นยอดของปี 60 หากนับถึงเดือน ก.ย.61 จะอยู่ที่ 63,900 ล้านบาท ยังไม่รวมดอกเบี้ย นอกจากนี้ยังมีค่าจัดการกรรมสิทธิ์ เพราะผู้ถูกเวนคืนบางรายยังอุทธรณ์อยู่ และอาจฟ้องศาล หากผู้ถูกเวนคืนได้รับเงินเพิ่มเท่าไร ก็ต้องเอาไปจ่ายเพิ่มด้วย นอกจากนี้ ครม.ยังอนุมัติร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม วิธีการจัดเก็บค่าโดยสารร่วม และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารร่วม ระหว่างรถไฟฟ้ามหานครสายฉลองรัชธรรม และรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน พ.ศ....ซึ่งเป็นการจัดเก็บค่าโดยสารร่วมระหว่างสายสีน้ำเงินและสีม่วง โดยคิดค่าบริการสูงสุดไม่เกิน 70 บาท ทั้ง 2 เส้นทาง และเมื่อเปิดให้บริการส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน หัวลำโพง-บางแค หรือบางซื่อ-ท่าพระ จะคิดสูงสุดไม่เกิน 70 บาทเช่นกัน รวมถึงส่วนต่อขยายสายสีม่วงด้วย.