จัดอีก 4.7 แสนล้านสร้างฝัน “อีอีซี”

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

จัดอีก 4.7 แสนล้านสร้างฝัน “อีอีซี”

Date Time: 31 ต.ค. 2561 10:01 น.

Summary

  • ครม.สัญจรเชียงราย อนุมัติเพิ่ม 4 โครงการโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี วงเงิน 4.7 แสนล้าน ตั้งเป้าได้เอกชนผู้ดำเนินโครงการ ก.พ.62 นี้ ระบุ เป็นโครงการที่รัฐบาลทำเป็นรูปเป็นร่างแล้ว

Latest

ทอท. ลงทุนเต็มพิกัด 10 ปี 2 แสนล้านบาท เที่ยวบินอินเตอร์ฟื้นตัวเกิน 100%


ครม.เชียงรายอนุมัติ4โครงการ“ท่าเรือ-สนามบิน”

ครม.สัญจรเชียงราย อนุมัติเพิ่ม 4 โครงการโครงสร้างพื้นฐานในอีอีซี วงเงิน 4.7 แสนล้าน ตั้งเป้าได้เอกชนผู้ดำเนินโครงการ ก.พ.62 นี้ ระบุ เป็นโครงการที่รัฐบาลทำเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ยันรัฐบาลไหนเข้ามาก็ต้องดำเนินการต่อ ด้าน “บิ๊กตู่” ย้ำต้องโปร่งใส ทำได้ตามเวลา

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน 2 (เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน) ได้เห็นชอบโครงการโครงสร้างพื้นฐานในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวน 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุนรวม 470,035 ล้านบาท

ทั้งนี้ นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ โฆษกประจำรองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ กล่าวถึงรายละเอียดของ 4 โครงการว่า โครงการที่ 1 คือ พัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีมูลค่าเงินลงทุน 290,000 ล้านบาท เป็นเงินลงทุนในส่วนของภาครัฐ 17,768 ล้านบาท ภาคเอกชน 272,232 ล้านบาท ภาครัฐมีหน้าที่จัดเตรียมพื้นที่และระบบสาธารณูปโภคกลาง และให้บริษัทวิทยุการบินแห่งประเทศไทยรับผิดชอบการเดินอากาศ

ขณะที่เอกชนลงทุนก่อสร้างองค์ประกอบหลักตามสัญญา รวมทั้งมีหน้าที่จ่ายค่าเช่าและแบ่งรายได้ให้ภาครัฐ จัดเก็บค่าโดยสารและรับความเสี่ยงด้านจำนวนผู้โดยสารเอง ฯลฯ โดยมีผลตอบแทนทางการเงินโครงการรวม 193,612 ล้านบาท แบ่งเป็นของภาครัฐ 119,353 ล้านบาท และกำไรของภาคเอกชน 74,259 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 189,999 ล้านบาท เกิดการจ้างงาน 15,640 ตำแหน่งต่อปี โดยคาดว่าจะได้เอกชนผู้ร่วมทุนในเดือน ก.พ.2562 และโครงการเปิดดำเนินการได้ในปี 2566

โครงการที่ 2 ศูนย์ซ่อมอากาศยาน (เอ็มอาร์โอ) อู่ตะเภา วงเงิน 10,588 ล้านบาท มอบหมายให้กองทัพเรือเป็นผู้ก่อสร้าง และให้ทางบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ร่วมลงทุนกับเอกชนออกแบบและจัดหาอุปกรณ์และเครื่องมือสำหรับศูนย์ซ่อมบำรุง ภาครัฐลงทุน 6,333 ล้านบาทและเอกชน 4,255 ล้านบาท ผลตอบแทนโครงการ 38,872 ล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 36,000 ล้านบาท เอกชน 2,872 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 22,100 ล้านบาท เพิ่มรายได้จากบริการสายการบินต่างประเทศ 200,000 ล้านบาท คาดได้เอกชนผู้ร่วมทุนเดือน ก.พ.2562 เปิดดำเนินการกลางปี 2565 และส่งผลให้ไทยเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมซ่อมบำรุงอากาศยานและผลิตชิ้นส่วนอากาศยานในภูมิภาค

ส่วนโครงการที่ 3 คือ ท่าเรือแหลมฉบังระยะที่ 3 วงเงินลงทุนรวมท่าเรือเอฟ และท่าเรืออีก 114,047 ล้านบาท ในเบื้องต้นจะดำเนินการในส่วนของท่าเรือเอฟก่อน วงเงินลงทุนรวม 84,361 ล้านบาท ให้เอกชนดำเนินการ 35 ปี เป็นเงินลงทุนภาครัฐ 53,490 ล้านบาท ภาคเอกชน 30,871 ล้านบาท ได้ผลตอบแทนโครงการ 76,078 ล้านบาท แบ่งเป็นภาครัฐ 73,358 ล้านบาท ภาคเอกชน 2,720 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 180,000 ล้านบาท ซึ่งโครงการนี้มีความสำคัญมาก เพราะเป็นประตูส่งออกของประเทศ หากไม่ดำเนินการจะทำให้ท่าเรือเดิมเต็มความจุเป็นข้อจำกัดของการส่งออก คาดว่าจะได้เอกชนผู้ร่วมทุนเดือน ก.พ.2562 เปิดดำเนินการได้ปลายปี 2566

ขณะที่โครงการที่ 4 คือ ท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุดระยะที่ 3 รวมเงินลงทุนทั้งหมดทั้งท่าเรือก๊าซ ท่าเรือสินค้าเหลว และพื้นที่คลังสินค้า 55,400 ล้านบาท เบื้องต้นจะดำเนินการท่าเรือก๊าซวงเงินลงทุน 47,900 ล้านบาทก่อน การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย จะเป็นผู้จัดหาพื้นที่และดำเนินการเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนเอกชนจะดำเนินการในส่วนของการก่อสร้างท่าเรือ ท่าเรือก๊าซ และงานที่เกี่ยวข้อง เป็นเงินลงทุนภาครัฐ 12,900 ล้านบาท ภาคเอกชน 35,000 ล้านบาท ผลตอบแทน 47,357 ล้านบาท รัฐได้ผลตอบแทน 34,221 ล้านบาท เอกชน 13,136 ล้านบาท เกิดผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ 85,300 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติเป็น 10.8 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบัน 4 ล้านตันต่อปี คาดได้เอกชนผู้ร่วมทุนเดือน ม.ค.2562 เปิดดำเนินการปี 2568

“ทั้ง 5 โครงการอีอีซี คือ โครงสร้างพื้นฐาน 4 โครงการ ที่ผ่าน ครม.ครั้งนี้ และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ทั้งหมดนี้ได้ผ่าน ครม.และเป็นรูปเป็นร่างไปแล้ว และไม่ว่ารัฐบาลไหนเข้ามา ถือว่าโครงการได้เริ่มต้นไว้แล้ว หากโครงการดำเนินการเสร็จจะมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจรวม 819,662 ล้านบาท”
ด้านนายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวใน ครม.กำชับให้เกิดความโปร่งใสสำหรับโครงการอีอีซี และให้ดำเนินโครงการตามแผนและระยะเวลาที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ และยืนยันว่า ไม่ว่าอนาคตจะมีรัฐบาลใดก็ตาม โครงการนี้ต้องดำเนินการไปตามแผน.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ