นายยุทธนา ศิลป์สรรค์วิชช์ สมาคมอุตสาหกรรมเครื่องนุ่งห่มไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้สมาคมฯอยู่ระหว่างติดตามสถานการณ์ที่สหภาพยุโรป (อียู) และสหรัฐฯ อาจพิจารณาการใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้ากับกัมพูชา ด้วยการพิจารณาตัดสิทธิพิเศษทางการค้าภายใต้โครงการค้าทุกอย่างยกเว้นอาวุธยุทโธปกรณ์ (Everything But Arms) จากปัญหาด้านสิทธิมนุษยชน เนื่องจากจะมีผลต่อผู้ประกอบการเครื่องนุ่งห่มไทย ที่ปัจจุบันได้ขยายฐานการผลิตไปอยู่ในประเทศกัมพูชาหลายราย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ผู้ประกอบการไทยกำลังวางแผนเพื่อรับมือหากกัมพูชาถูกตัดสิทธิประโยชน์ทางการค้าจากสหรัฐฯและยุโรป เช่น อาจพิจารณาลดคนงาน หรือย้ายฐานไปยังประเทศอื่นๆที่ได้รับสิทธิประโยชน์พิเศษทางการค้าต่อไป แต่ปัจจุบันทั้ง 2 ประเทศยังไม่พิจารณาตัดสิทธิ์จึงไม่อยากให้ตื่นตระหนก
นายยุทธนา กล่าวว่า ในส่วนของการส่งออกเครื่องนุ่งห่มภาพรวมในปีนี้เชื่อว่าจะขยายตัวดีเหมือนกับการส่งออกสินค้าอื่นๆของไทยที่คาดว่าจะขยายตัวในระดับ 8% ประกอบกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีนนั้น ล่าสุดมีผู้นำเข้าเสื้อผ้าจากสหรัฐฯ เจรจากับผู้ผลิตเสื้อผ้าในอาเซียน เพื่อซื้อสินค้าทดแทนเสื้อผ้าจากจีนที่สหรัฐฯได้มีมาตรการปรับขึ้นภาษี ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของผู้ประกอบการไทยที่อาจจะได้รับคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) เพิ่ม
ส่วนปัจจัยที่มีผลต่อการส่งออกเสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่มไทยในปีนี้และปีหน้า เช่น สงครามการค้าที่อาจทำให้เศรษฐกิจทั่วโลกชะลอตัวและอาจลดออเดอร์เสื้อผ้าลง, ความผันผวนของราคาน้ำมัน, ความมั่นคงทางการเมือง, ความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน เป็นต้น ขณะที่คุณภาพในการผลิตสินค้านั้นผู้ประกอบการไทยมีศักยภาพอยู่ในระดับแถวหน้าของโลกจึงไม่มีปัญหาตรงนี้.