หาเสียงกับพี่วินมอเตอร์ไซค์ ลดกระหน่ำ! แก๊สโซฮอล์ 95 ลิตรละ 3 บาท

กระทรวงพลังงาน เปิดแผนหาเสียงรอบใหม่ ลดถล่มทะลายราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ลงลิตรละ 3 บาท ซื้อใจพี่วินมอเตอร์ไซค์ทั่วไทย แถมผู้ถือบัตรคนจนรูดเติมได้เต็มที่เต็มถังแบบไม่จำกัด คาดใช้ได้เดือน ธ.ค.นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ ก่อนขยายวงกว้างให้ประชาชนที่ใช้มอเตอร์ไซค์ทั่วไปได้ใช้สิทธิ์นี้บ้าง ตั้งเป้าทั้งประเทศแห่ใช้สิทธิรวม 300,000 คน

นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานจะร่วมมือกับกองทุนน้ำมัน และผู้ประกอบการน้ำมันเพื่อศึกษาแนวทางการลดผลกระทบต่อราคาน้ำมัน ที่มีแนวโน้มสูงขึ้นในช่วงปลายปีนี้ ให้กับกลุ่มผู้ประกอบการรถจักรยานยนต์รับจ้างหรือวินมอเตอร์ไซค์เพื่อไม่ให้ฉวยโอกาสปรับขึ้นค่าโดยสารกับประชาชน ด้วยการนำเสนอแนวทางการอุดหนุนราคาแก๊สโซฮอล์ 95 ให้ต่ำกว่าราคาขายปกติทั่วไปลง 3 บาทต่อลิตร ซึ่งเป็นการนำร่องกลุ่มแรก และจะเริ่มใช้ในเดือน ธ.ค.นี้ เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชนคนไทย ก่อนขยายผลไปยังกลุ่มประชาชนทั่วไปที่ใช้รถจักรยานยนต์ในชีวิตประจำวัน

ทั้งนี้ ผู้ที่จะได้รับผลประโยชน์ดังกล่าว คือผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง และรถจักรยานยนต์บ้าน แต่ต้องเป็นผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจน และมาจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกเท่านั้น โดยจากผลสำรวจล่าสุดพบว่า ในพื้นที่กรุงเทพฯ มีจำนวนรถจักรยานยนต์รับจ้างรวม 100,000 ราย รถจักรยานยนต์รับจ้างในต่างจังหวัดรวม 100,000 ราย คาดว่าเมื่อมีการรับรู้ถึงมาตรการดังกล่าวแล้ว จะมีประชาชนที่เป็นกลุ่มรถจักรยานยนต์รับจ้างและรถจักรยานยนต์บ้านทยอยมาจดทะเบียนเพิ่มเติมอีก 100,000 รายแน่นอน

“ระยะแรกจำนวนรถจักรยานยนต์ของ 2 กลุ่มเป้าหมายรวม 200,000 ราย จะมีความต้องการเติมน้ำมันดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 600 ล้านบาทต่อปี ซึ่งโครงการนี้คาดว่าจะใช้ระยะหนึ่งก่อน เพื่อดูผลที่จะเกิดขึ้นจริง มีความเป็นไปได้ที่จะใช้ต่อเนื่อง แต่ก็ ต้องขอดูผลที่จะเกิดขึ้นก่อน ความช่วยเหลือครั้งนี้ถือเป็นรูปแบบของความร่วมมือของโครงการประชารัฐ ที่รัฐบาลจะร่วมมือกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) และภาคเอกชนผู้ค้าน้ำมัน ที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ”

อย่างไรก็ตาม การลดราคาขายปลีกแก๊สโซฮอล์ 95 ให้กับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ในโครงการดังกล่าว ในอัตรา 3 บาทต่อลิตรนั้น ส่วนหนึ่งจะนำเงินกองทุนน้ำมันมาชดเชย 2 บาทต่อลิตร อีก 1 บาทต่อลิตร ได้ขอให้ผู้ค้าน้ำมันมาตรา 7 มาร่วมลงทุน เช่นปั๊ม น้ำมันของ ปตท.ที่มีอยู่กว่า 1,400 แห่งทั่วประเทศ

นายศิริ กล่าวถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงาน (กบง.) เมื่อวันที่ 11 ต.ค.ที่ผ่านมา ว่า กบง.ได้รับทราบว่า สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ปรับลดลงต่อเนื่อง หลังประเทศซาอุดีอาระเบียและรัสเซียออกมายืนยันสามารถเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมันชดเชยปริมาณน้ำมันดิบที่อิหร่านผลิตลดลง หลังสหรัฐอเมริกาประกาศมาตรการคว่ำบาตร ที่จะมีผลวันที่ 4 พ.ย.นี้ ทำให้ตลาดน้ำมันคลายความกังวลต่อปัญหาปริมาณน้ำมันไม่เพียงพอ ส่งผลให้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกลดลงมาอยู่ในระดับปกติ ซึ่งหากราคาน้ำมันเคลื่อนไหวอยู่ในระดับนี้ มั่นใจว่าการใช้เงินกองทุนน้ำมันที่มีอยู่ล่าสุด 24,592 ล้านบาท จะเพียงพอในการดำเนินมาตรการอุดหนุนราคาน้ำมันดีเซลไม่เกิน 1 บาทต่อลิตรไปจนถึง มิ.ย.62 ภายใต้กรอบราคาน้ำมัน
ดูไบอยู่ที่ 80 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และยังสามารถเพิ่มวงเงินอุดหนุนจาก 1 บาทต่อลิตร เป็น 1.50 บาทต่อลิตร เพื่อไม่ให้ราคาน้ำมันดีเซลสูงเกิน 30 บาทต่อลิตรไปจนถึง มี.ค.62 ภายใต้กรอบราคาน้ำมันดิบดูไบเคลื่อนไหวที่ 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และบวกลบในกรอบ 2.50 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

ขณะเดียวกัน กบง.ก็จะขยายเวลาการตรึงราคา ขายปลีกก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ขนาดถัง 15 กิโลกรัม (กก.) สำหรับภาคครัวเรือนในอัตราถังละ 363 บาทต่อถังไปจนถึง มี.ค.62 ด้วย จากเดิมสิ้นสุดอายุการตรึงราคาสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ “มาตรการทั้งหมดนี้ ผมมั่นใจว่าเงินกองทุนน้ำมันที่มีอยู่ 24,592 ล้านบาท จะรับมือกับสถานการณ์ราคาน้ำมันตลาดโลกได้ หลังปีใหม่ราคาน้ำมันโลกก็จะทยอยลดลง”

ด้านนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ความคืบหน้าสวัสดิการที่ช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยและสวัสดิการประชารัฐ ที่ขึ้นทะเบียนกับกระทรวงการคลัง ซึ่งเบื้องต้นจะให้การช่วยเหลือกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างและกลุ่มรถแท็กซี่นั้น ต้องขึ้นอยู่กับผู้ค้าน้ำมันว่าจะสนับสนุนในส่วนนี้อย่างไร “การช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยก็ต้องขึ้นอยู่กับ ปตท.ว่าจะดำเนินการอย่างไรกับรถโดยสารที่จดทะเบียน ซึ่งยังไม่ได้สรุปรายละเอียด กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องหารือกันต่อไป”.