กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผยไฟเขียวลงทุนไทย ก.ย.เพิ่มอีก 19 ราย

บอร์ดต่างด้าว ไฟเขียวลงทุนไทย ก.ย.เพิ่ม 19 ราย ส่วน 9 เดือนที่ผ่านมา อนุญาตแล้ว 197 ราย ลด 10% แต่เม็ดเงินลงทุนเพิ่ม 39% มูลค่า 8,780 ล้านบาท หลังอนุญาตธุรกิจต่างด้าวที่ใช้เงินลงทุนสูง...

นางกุลณี อิศดิศัย อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาประกอบธุรกิจในไทยเดือน ก.ย.61 จำนวน 19 ราย เพิ่มขึ้น 6% เทียบกับเดือน ส.ค.61 มีการนำเงินเข้ามาลงทุน 234 ล้านบาท ลดลง 78% เพราะเดือน ส.ค.61 มีผู้ได้รับอนุญาตให้ประกอบธุรกิจ ซึ่งต้องใช้เงินลงทุนสูง คือ บริการให้กู้ยืมเงิน บริการรับค้ำประกันหนี้ และการค้าปลีกชิ้นส่วนและอุปกรณ์ประกอบระบบลม ชุดฝึกอุปกรณ์ลม เป็นต้น โดยส่งเสริมให้เกิดการจ้างงานคนไทย 293 คน รวมถึงมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีที่เป็นองค์ความรู้เฉพาะด้านโดยตรงจากประเทศผู้เข้ามาลงทุน

ส่วนในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย.) ปี 61 มีคนต่างด้าวได้รับใบอนุญาต 197 ราย ลดลง 10% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีเงินลงทุนทั้งสิ้น 8,780 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% เพราะมีต่างชาติลงทุนประกอบธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง เช่น บริการออกแบบทางวิศวกรรมและติดตั้งเหล็กโครงสร้างรูปพรรณและผลิตภัณฑ์คอนกรีต บริการออกแบบ จัดหา ก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรและอุปกรณ์ เป็นต้น

สำหรับธุรกิจที่คนต่างด้าวได้รับอนุญาตเดือน ก.ย.61 ได้แก่ ธุรกิจบริการให้แก่บริษัทในเครือ/ในกลุ่ม 9 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 118 ล้านบาท ได้แก่ บริการตรวจสอบคุณภาพชิ้นส่วนยางซิลิโคนสำหรับอุตสาหกรรม บริการให้คำปรึกษาและแนะนำ บริการรับจ้างผลิตปะเก็นและชิ้นส่วนป้องกันความร้อนสำหรับยานยนต์ บริการให้เช่าเครื่องคอมพิวเตอร์แบบตั้งโต๊ะและแบบพกพา บริการให้เช่าที่ดิน บริการให้เช่าพื้นที่อาคารสำนักงานและพื้นที่อาคารจอดรถ บริการทางบัญชี บริการให้กู้ยืมเงิน โดยเป็นคนต่างด้าวจากญี่ปุ่น เยอรมนี และสิงคโปร์

นอกจากนี้ยังมีธุรกิจบริการให้แก่ลูกค้า 4 ราย เงินลงทุน 26 ล้านบาท ได้แก่ บริการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สำหรับงานโครงข่ายโทรคมนาคม บริการให้ใช้ช่วงสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ บริการติดตั้ง ซ่อมแซม บำรุงรักษา และฝึกอบรมการใช้งานเครื่องจักรและแม่พิมพ์ที่ใช้ฉีดเคลือบพลาสติกบนแผงวงจรกึ่งตัวนำ บริการออกแบบและพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยเป็นคนต่างด้าวจากเนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และลิกเทนสไตน์

ขณะเดียวกัน มีธุรกิจบริการเป็นคู่สัญญาภาครัฐ 1 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 9 ล้านบาท ได้แก่ การค้าปลีกเครื่องจักรและอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับห่อซองบุหรี่ โดยเป็นคนต่างด้าวจากสวิตเซอร์แลนด์, ธุรกิจค้าปลีก/ค้าส่ง 5 ราย มีเงินลงทุนจำนวน 81 ล้านบาท เช่น การค้าปลีกแม่พิมพ์ สำหรับผลิตชิ้นส่วนพลาสติกที่เป็นส่วนประกอบอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การค้าปลีกเครื่องมือและอุปกรณ์ระบบอัตโนมัติสำหรับตรวจสอบและควบคุมความปลอดภัยและการทำงานของเครื่องจักรอุตสาหกรรม เป็นต้น โดยเป็นคนต่างด้าวจากมาเลเซีย ญี่ปุ่น และเยอรมนี

“การอนุญาตให้ประกอบธุรกิจในครั้งนี้จะมีผลให้เกิดการถ่ายทอดเทคโนโลยีอันเป็นวิทยาการซึ่งเป็นองค์ความรู้ในแขนงที่คนไทยยังไม่มีความชำนาญหรือมีความเชี่ยวชาญในระดับที่ไม่สูงมากนัก เช่น องค์ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีขั้นสูงในอุปกรณ์เครือข่ายโทรคมนาคมเพื่อรองรับเทคโนโลยี 5G เป็นต้น” นางกุลณี กล่าว.