ตีกันร่ำรวยมั่วนิ่มใช้สิทธิ รวบ 26 สวัสดิการแจกเงินเข้าบัตรคนจน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

Tag

ตีกันร่ำรวยมั่วนิ่มใช้สิทธิ รวบ 26 สวัสดิการแจกเงินเข้าบัตรคนจน

Date Time: 3 ก.ย. 2561 09:30 น.

Summary

  • กรมบัญชีกลางลุยไฟสร้างบิ๊กดาต้า ดึง 26 สวัสดิการแจกเงิน จ่ายผ่านบัตรคนจน ปีหน้าคิวเบี้ยยังชีพคนชรา หลังปีนี้นำร่องบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค มั่นใจมาตรการช่วยเหลือคนจนทำได้ตรงจุด...

Latest

5 วิชา “การเงิน การลงทุน” ต้องรู้! เป็นหนี้อย่างไร? ให้มี “เงินเก็บ” เกษียณแบบมีรายได้

กรมบัญชีกลางลุยไฟสร้างบิ๊กดาต้า ดึง 26 สวัสดิการแจกเงิน จ่ายผ่านบัตรคนจน ปีหน้าคิวเบี้ยยังชีพคนชรา หลังปีนี้นำร่องบัตรทอง 30 บาทรักษาทุกโรค มั่นใจมาตรการช่วยเหลือคนจนทำได้ตรงจุด ลดภาระงบประมาณ หากพบข้อมูลว่ารวยแล้วแกล้งจนหั่นสิทธิบัตรทอง

นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า ในปีหน้ากรมบัญชีกลางจะนำเบี้ยยังชีพคนชรา จ่ายผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพื่อสร้างฐานข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big Data เพื่อช่วยให้รัฐบาลสามารถออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนที่มีรายได้น้อยได้ตรงจุด และแม่นยำมากขึ้น โดยปัจจุบันเบี้ยคนชรา บริหารจัดการ ภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีผู้สูงอายุที่ได้รับสิทธิประมาณ 9 ล้านคน โดยผู้มีอายุ 60-69 ปี ได้รับเดือนละ 600 บาท อายุ 70-79 ปี เดือนละ 700 บาท อายุ 80-89 ปี เดือนละ 800 บาท และอายุ 90 ปีขึ้นไปได้รับ 1,000 บาท รวมเป็นเบี้ยคนชราที่จ่ายต่อปี 70,000 ล้านบาท

ทั้งนี้เมื่อนำข้อมูลเบี้ยคนชรา รวมกับข้อมูลประชาชนที่มาลงทะเบียนขอรับสวัสดิการแห่งรัฐ ที่มีผู้มีรายได้น้อยมาลงทะเบียน 11.4 ล้านคน แบ่งเป็นประชาชนที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี จำนวน 8.3 ล้านคน ซึ่งมีอายุเกินกว่า 60 ปี จำนวน 3 ล้านคน ขณะเดียวกันผู้ที่มีรายได้เกินกว่า 30,000-100,000 บาทต่อปี มีอยู่ 3.1 ล้านคน ส่วนใหญ่อยู่ในวัยทำงาน และมีจำนวนผู้สูงอายุในกลุ่มนี้ 200,000-300,000 คน

“ปัจจุบันรัฐบาลมอบสวัสดิการกระจายอยู่ตามหน่วยงานต่างๆ จำนวน 44 สวัสดิการ แบ่งเป็น แจกเงิน 26 สวัสดิการ และอีก 18 สวัสดิการ แจกเป็นสิ่งของ อย่างไรก็ตาม แผนงาน กรมจะนำสวัสดิการที่เป็นตัวเงิน โอนเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการฯ โดยเลือกสวัสดิการที่สำคัญๆ และเกี่ยวข้องกับคนจำนวนมากก่อน โดยในปีนี้ได้นำบัตรทอง หรือ 30 บาทรักษาทุกโรค ส่วนปีหน้าจะนำเรื่องเบี้ยยังชีพคนชรา”

นางสาวสุทธิรัตน์ กล่าวอีกว่า กรมได้เข้าใกล้ฐานข้อมูลที่มีความถูกต้องและแม่นยำมากที่สุดแล้ว ผู้สูงอายุที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี มีสิทธิที่ได้รับความช่วยเหลือเร่งด่วนที่สุด ดังนั้นรัฐบาลจึงมอบเงินช่วยเหลือให้ผู้มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อปี รับเพิ่ม 100 บาท และมากกว่า 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี รับเพิ่มอีก 50 บาท โดยเงินก้อนนี้จะใส่ไปในบัตรสวัสดิการช่องกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money) ซึ่งสามารถกดเงินสดจากตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงไทยได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 28 ส.ค.2561 ยังอนุมัติให้กรมบัญชีกลางโอนเงินให้แก่ผู้ลงทะเบียนฯ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต หรือเฟส 2 ได้รับเงินอีก 200 บาท กรณีมีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาท และอีก 100 บาท กรณีที่มีรายได้เกินกว่า 30,000 บาท สามารถกดเงินสดจากเครื่องเอทีเอ็มได้ตั้งแต่เดือน ก.ย.จนถึง ธ.ค.รวม 4 เดือน แสดงให้เห็นว่าสวัสดิการฯต่างๆที่กรมบัญชีกลางใส่ลงไปในบัตรสวัสดิการฯ กำลังทำงานและเงินก็กำลังหมุนอยู่ในระบบฐานรากเศรษฐกิจ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะลดให้สิทธิประชาชนที่ถือบัตรทอง โดยคนจนที่มีรายได้ต่ำกว่า 100,000 บาทต่อปี มีอยู่จำนวน 11.4 ล้านคน ยังคงสิทธิของบัตรทองไว้เหมือนเดิม ส่วนประชาชนที่มีรายได้เกินกว่า 100,000 บาทต่อปี สิทธิในบัตรทองก็ควรที่จะลดลงหากมีฐานะดีหรือร่ำรวย เช่น จ่ายเอง 10% บัตรทองจ่ายให้ 90% หรือจ่ายเงินเอง 20% บัตรทองจ่ายให้ 80% เป็นต้น ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระเงินงบประมาณไปปีละนับแสนล้านบาท เป็นต้น.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ
หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ