นายวีระพล จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยในงานเสวนาวิชาการเรื่อง “โฉมหน้าพลังงานไทย : ยุค Disruptive Technology” จัดโดยชมรมวิทยาการพลังงาน (ชวพน.) และชมรมวิทยาการพลังงานรุ่นใหม่ (ชวพม.) ว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะประชุมเรื่องแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้า (พีดีพี) 2015 ฉบับใหม่ในสัปดาห์นี้ และทำการสรุปเพื่อเข้าสู่การรับฟังความเห็นของประชาชนในเดือน ก.ย. ก่อนเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) และคณะรัฐมนตรีต่อไป แผนดังกล่าวจะแล้วเสร็จในปีนี้
“การรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานต่างๆในแผนพีดีพีจะคล้ายกับแผนฉบับปัจจุบัน แต่อาจเปลี่ยนแปลง เช่น ไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ (โซลาร์เซลล์) ที่อาจเปลี่ยนจากรูปแบบปัจจุบัน โดยมีโซลาร์ภาคประชาชนเพิ่มเข้ามา หรือไฟฟ้าจากขยะชุมชนก็จะมีเพิ่มขึ้น จากแผนเดิมที่กำหนด รับซื้อ 500 เมกะวัตต์ แต่จะเท่าใดต้องรอให้กระทรวงมหาดไทยทำตัวเลขเสนอมา กกพ.พร้อมที่จะรับซื้อไฟฟ้าจากขยะชุมชนเพิ่ม หากมีการกำหนดไว้ในพีดีพี ล่าสุดจะรับซื้อระยะแรก 78 เมกะวัตต์”
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ นายกสมาคมผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชน กล่าวว่า นโยบายพลังงานของประเทศไทย ต้องมีความชัดเจนและสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่ผ่านมามีการกำหนดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน แต่ยังมีบางอย่างที่กฎเกณฑ์ไม่ชัดเจน ส่งผลต่อความกังวลด้านราคาไฟฟ้าในอนาคต
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่เทคโนโลยีและวิศวกรรม บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปตท.มีการปรับกลยุทธ์เพื่อให้ทันกับเทคโนโลยี โดยแสวงหาธุรกิจใหม่ๆรวมถึงขยายการลงทุนในธุรกิจต่อเนื่อง และเพิ่มประสิทธิภาพการแข่งขัน สิ่งที่ต้องระมัดระวังในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี คือ การขโมยข้อมูลในระบบ รวมถึงต้องคำนึงถึงระบบความปลอดภัยและการเก็บฐานข้อมูล เนื่องจากที่ผ่านมาเริ่มมีการโจรกรรมข้อมูลกันแล้ว.