เอกชน ประเมินส่งออกไทยปีนี้ ฉลุยโต 9% แนะคงดอกเบี้ยนโยบาย

เอกชนถกพาณิชย์ มั่นใจปีนี้ ส่งออกไทยขยายตัว 9% จากเป้าเดิม 8% เหตุสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรม ยังเติบโตได้ต่อเนื่อง แม้มีปัญหาสงครามการค้า แนะคงดอกเบี้ยนโยบาย ไม่ให้กระทบค่าบาท...

เมื่อวันที่ 27 ส.ค. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะกรรมการสานพลังประชารัฐด้านการส่งเสริมการค้า ธุรกิจบริการ และการลงทุนในต่างประเทศ (D4) ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงสถานการณ์ส่งออกที่เหลือของปีนี้ โดยภาคเอกชนประเมินว่ามูลค่าการส่งออกไทยทั้งปี 61 น่าจะขยายตัวได้ 9% จากปีก่อน คิดเป็นมูลค่า 257,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยมีปัจจัยบวกมาจากการขยายตัวของการส่งออกสินค้าเกษตรที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5% และสินค้าอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้น 11%
    
“ภาคเอกชนมองว่าการส่งออกปีนี้มีโอกาสโตสูงถึง 9% แม้จะมีเทรดวอร์เกิดขึ้น แต่การส่งออกยังทำได้ดี โดยเฉพาะสินค้าอุตสาหกรรมที่หลายตัวการส่งออกเป็นบวก ส่วนสินค้าเกษตร มีทั้งบวก ทรงตัว และติดลบ แต่ภาพรวมยังเป็นบวก จะนำตัวเลขของเอกชนมาประเมินภายในร่วมกับข้อมูลจากทูตพาณิชย์ในประเทศต่างๆ อีกที ก็จะได้เป้าหมายการส่งออกปีนี้ แต่ตอนนี้เป้าหมายยังอยู่ที่โต 8% ส่วนจะเพิ่มขึ้นเท่าไร ต้องประเมินกันก่อน แต่ทิศทางดีขึ้นแน่ ส่วนการจัดทำเป้าหมายการส่งออกปี 62 ได้สั่งการให้นัดประชุมทูตพาณิชย์ทั่วโลกในช่วงเดือน ต.ค.61 แล้ว”

อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาปัจจัยเสี่ยงสำคัญ ทั้งสงครามการค้า เพราะยังไม่รู้ว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีก รวมทั้งจะอัตราแลกเปลี่ยน อัตราดอกเบี้ย ซึ่งเอกชนมีความกังวล ส่วนการขับเคลื่อนการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ ยังคงเน้นการสร้างหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจ ที่จะต้องทำให้เข้มข้นมากขึ้น  

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล รองประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเอกชนในคณะ D4 กล่าวว่า การส่งออกครึ่งปีหลังยังมีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ตัวเลขอาจไม่สูงเท่าครึ่งปีแรก เพราะฐานการส่งออกครึ่งปีหลังของปีก่อนสูง แต่โดยภาพรวมส่งออกครึ่งปีหลังคาดว่าจะขยายตัวได้ 7% โดยมูลค่าการส่งออกกลุ่มเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตร เพิ่ม 5% และกลุ่มอุตสาหกรรม เพิ่ม 11% เมื่อรวมกับครึ่งปีแรกที่เพิ่มขึ้น 11% ก็มีโอกาสที่ทั้งปีจะโตได้ 9% มูลค่าประมาณ 257,950 ล้านเหรียญฯ

“สิ่งที่เอกชนมีความกังวลและอยากให้รัฐบาลดูแล คือ การคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อไม่ให้กระทบต่อค่าเงินบาท แม้ตอนนี้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง แต่อ่อนค่าน้อยกว่าประเทศคู่แข่ง ส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทย ส่วนเรื่องเทรดวอร์ ระยะสั้นยังไม่ได้รับผลกระทบ อุตสาหกรรมหลายชนิดยังส่งออกได้ดี เช่น รถยนต์ แต่ที่ต้องติดตาม คือ ภาคเกษตรที่ยังไม่ดีนัก โดยเฉพาะราคามันสำปะหลัง”
    
ส่วนการประมาณการณ์การขยายตัวมูลค่าการส่งออกในปี 62 ขณะนี้ ยังไม่กล้าประเมินล่วงหน้า เพราะหลายปัจจัยยังผันผวน โดยเฉพาะนโยบายของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะมีอะไรเพิ่มเติมอีกหรือไม่ รวมถึงมาตรการตอบโต้ระหว่างประเทศเศรษฐกิจสำคัญของโลก ทั้งสหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ยุโรป โดยภาครัฐและเอกชนจะหารือกันอีกครั้งในเดือน ต.ค.นี้ จึงจะระบุคาดการณ์ตัวเลขส่งออกปี 62 ได้.