ใครถือบัตรคนจน ได้เฮ! รักษา 30 บาทไม่ต้องจ่ายเงิน คาดเริ่มก.ย.นี้ เตรียมได้อีกเด้ง ได้คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มเติมใส่ในบัตร เอาไปใช้จ่ายได้ต่อ...
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เตรียมเสนอครม. พิจารณาเห็นชอบมาตรการเพิ่มเติมในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการภาครัฐจำนวน 11.4 ล้านคน ให้สามารถเข้ารับการรักษาพยาบาลผ่านโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคได้โดยไม่ต้องจ่ายเงิน ซึ่งภายใน 2-3 สัปดาห์นี้ จะประสานกระทรวงสาธารณสุขและโรงพยาบาลทุกแห่งถึงแนวทางการดำเนินงานตามมาตรการดังกล่าว ส่วนเงินชดเชยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เงินจากกองทุนประชารัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานราก เพราะคาดว่าจะใช้เงินในการดำเนินมาตรการไม่มากนัก
ทั้งนี้คาดว่าจะเริ่มตั้งแต่เดือน ก.ย.61 เป็นต้นไป โดยจะเป็นมาตรการถาวร ซึ่งหลักคิดของมาตรการคือ ผู้มีรายได้น้อยไม่ควรมีภาระค่าใช้จ่ายในเรื่องนี้ โดยบัตรสวัสดิการจะเป็นเครื่องยืนยันตัวตนที่จะได้รับการบริการจากโรงพยาบาล ซึ่งสิทธิการรักษาทุกอย่างจะได้ตามปกติ
นอกจากนี้อยู่ระหว่างพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ให้กับผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ และการวางระบบไอทีเพื่อใช้ในการเก็บข้อมูลการใช้จ่ายของกรมสรรพากร เบื้องต้นตั้งเป้าหมายว่าจะเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-31 ธ.ค.61 เป็นเวลา 3 เดือน ส่วนเพดานการคืนภาษี ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน คงต้องรอให้การวางระบบไอทีต่าง ๆ เรียบร้อยก่อน
สำหรับการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม จะคำนวณให้ทั้งในส่วนเงินช่วยเหลือที่รัฐจ่ายให้ผ่านบัตรทุกเดือน และในส่วนที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเงินใส่เข้าไปในบัตรสวัสดิการเองเพื่อใช้จ่ายในการซื้อสินค้าต่างๆ ส่วนหลักการในการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มจะคืนเงินเข้าไปในบัตรสวัสดิการ โดยผู้ถือบัตรสามารถนำเงินไปซื้อสินค้าต่างๆ ต่อได้ หรือกดเป็นเงินสดออกมาใช้จ่าย ขณะที่กระบวนการคืนภาษียังอยู่ระหว่างพิจารณาว่าจะคืนให้ทุกเดือนตลอดระยะเวลา 3 เดือน หรือจะคืนครั้งเดียวหลังสิ้นสุดโครงการ เบื้องต้นมองว่าการคืนแบบรายเดือน น่าจะส่งผลดีกับเศรษฐกิจมากกว่า เพราะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจได้ดีขึ้น
“ผู้มีรายได้น้อยที่ถือบัตรสวัสดิการฯ จะต้องมีรายได้ไม่เกิน 1 แสนบาทต่อปี ดังนั้นการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม จะคิดเป็นจำนวนเท่ากับที่เสียไปผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือไม่ควรเกิน 7 พันบาทต่อราย เพราะหากการขอคืนภาษี สูงกว่าจำนวนดังกล่าวก็ถือว่าบุคคลนั้นไม่ได้เป็นผู้มีรายได้น้อย ตอนนี้กำลังวางระบบ”
ส่วนวงเงินที่รัฐให้ผ่านบัตรสวัสดิการฯทุกเดือน ทางธนาคารกรุงไทยจะรับหน้าที่เก็บข้อมูลจากการใช้จ่ายของผู้ถือบัตร เพื่อส่งให้กรมสรรพากร ส่วนวงเงินที่ผู้มีรายได้น้อยเติมเอง ได้ประสานกับสมาคมธนาคารไทยให้เป็นผู้เก็บข้อมูลเพื่อส่งให้กรมสรรพากรต่อไป เพื่ออำนวยความสะดวกผู้มีรายได้น้อยไม่ต้องเก็บใบกำกับภาษี ในการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มต่อไป.