หารายได้รับลงทุน 1.2 แสน ล. ทอท.สู้สุดใจเนรมิตสุวรรณภูมิเฟส 2-4

ทอท.ตรวจการก่อสร้างเร่งรัดสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2–3 ตั้งเป้าหารายได้เพิ่มมือเป็นระวิง รับงบลงทุนมหาศาล 1.2 แสนล้านบาท หวังเปิดบริการปลายปี 63 รับผู้โดยสารเพิ่มเป็น 90 ล้านคนต่อปี ยืนยันขอไปต่อที่สุวรรณภูมิเฟส 4 อาคารเทียบเครื่องบินแห่งที่ 2 ดันศักยภาพรับผู้โดยสารเป็น 150 ล้านคนต่อปี

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยภายหลังการลงพื้นที่เพื่อตรวจความคืบหน้าโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ ในเฟส 2-3 ว่า สำหรับภาพรวมในโครงการก่อสร้างในขณะนี้ถือว่ามีความคืบหน้ากว่า 30.62% โดยโครงการก่อสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ลานจอดอากาศยานประชิดอาคารเทียบเครื่องบิน มีความคืบหน้าในการก่อสร้างแล้ว 87-90%

ขณะที่งานก่อสร้างอุโมงค์ ด้านทิศใต้ เพื่อรองรับระบบรถไฟฟ้าขนส่งผู้โดยสารอัตโนมัติ (APM) นั้น มีความคืบหน้ากว่า 80% ซึ่งขณะนี้โครงสร้างพื้นฐานแล้วเสร็จ รอการติดตั้งระบบ โดย ทอท. มั่นใจว่าโครงการทั้งหมดจะแล้วเสร็จได้ในต้นปี 63 และเปิดให้บริการได้กลางปี 63 ซึ่งจะทำให้สามารถรองรับผู้โดยสารได้ทั้งสิ้น 90 ล้านคนต่อปี

ขณะเดียวกัน หากมีการพัฒนาต่อเนื่องจนขยายขีดความสามารถไปได้ถึงเฟส 4 จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้มากถึง 150 ล้านคนต่อปี

ในขณะที่ความคืบหน้าในการเดินหน้าโครงการสุวรรณภูมิเฟส 3 และ 4 นั้น ทางฝ่ายบริหาร ทอท.จะเร่งรัดการดำเนินการต่อเนื่อง โดยมั่นใจว่า ภายในปี 61 นี้ จะสามารถเสนอ ครม.เพื่ออนุมัติโครงการ โดยเฉพาะโครงการก่อสร้างอาคารที่พักผู้โดยสารหลังที่ 2 และสร้างรันเวย์ที่ 3 มูลค่ารวมกว่า 63,000 ล้านบาท โดยขณะนี้โครงการก่อสร้างรันเวย์ที่ 3-4 อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (คชก.) ซึ่งตามขั้นตอนเมื่อผ่านการพิจารณาของ คชก. แล้ว ทาง ทอท.ก็จะดำเนินการเสนอกระทรวงคมนาคม และ ครม.ต่อไป ขณะที่โครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 4 คือโครงการสร้างอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 2 นั้น ทาง ทอท.จะเร่งเสนอให้พิจารณาภายในปีนี้เช่นกัน

“ในขณะนี้ทางวิ่ง-ทางขับของสนามบินสุวรรณภูมิมีขีดความสามารถรองรับเที่ยวบินได้ 68 เที่ยวบิน ในปัจจุบันอัตราที่ใช้สูงสุด คือ 63 เที่ยวบินต่อ ชม. แต่หากมีการสร้างรันเวย์ที่ 3 เสร็จ จะทำให้รองรับเที่ยวบินเพิ่มขึ้นได้มากกว่า 68-94 เที่ยวบินต่อ ชม. ขณะที่อุโมงค์ด้านทิศใต้นั้น เมื่อสร้างแล้วเสร็จจะสามารถรองรับผู้โดยสารจากอาคารผู้โดยสารหลังที่ 1 ไปยังอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 ได้มากกว่า 6,000 คน/ชม.”

นายนิตินัยกล่าวต่อว่า จากที่ ทอท.มีโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2-3-4 ต่อเนื่อง และเตรียมรับโอนย้ายสนามบินที่เคยอยู่ในความรับผิดชอบของกรมท่าอากาศยาน (ทย.) ทั้งสนามบินชุมพร ตาก อุดรธานี สกลนคร รวมถึงยังมีแผนสร้างสนามบินเชียงใหม่ และสนามบินภูเก็ต แห่งที่ 2 ทั้งหมดนี้ ทอท.จะต้องใช้งบประมาณลงทุนรวมกว่า 120,000 ล้านบาท โดยจะใช้งบประมาณจากรายได้ของ ทอท.มาสร้าง ซึ่งขณะนี้มีเงินสดกว่า 64,000 ล้านบาท และในแต่ละปีจะมีกระแสเงินสดเข้ากว่าปีละ 30,000 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม ยอมรับว่าในช่วงปี 64-65 กระแสเงินสดที่จะใช้ลงทุนตามโครงการนี้อาจจะขาดไปประมาณ 50,000 ล้านบาท แบ่งเป็นปี 64 ประมาณ 40,000 ล้านบาท ปี 65 ประมาณ 10,000 ล้านบาท แต่ไม่มีปัญหา เนื่องจากคาดว่า ปริมาณผู้โดยสารโตเฉลี่ยปีละ 10% ทำให้มีรายได้เข้ามาเพิ่มขึ้น โดยยอดในไตรมาสที่ 3 ปริมาณผู้โดยสารโตเฉลี่ยกว่า 9.4% ขณะที่ในเดือน ก.ค.61 ที่อัตราการเติบโตปริมาณผู้โดยสารลดลงกว่า 3-4% ที่สนามบินสุวรรณภูมินั้นมาจากปริมาณผู้โดยสารจากยุโรปลดลง แต่ทั้งปียังคาดว่าผู้โดยสารจะเติบโตเฉลี่ย 9-10%.