สร้างรายได้จากประเทศเกษตรกรรม

ในช่วงเดือน มิ.ย.–ก.ค. กระทรวงพาณิชย์ โดย สนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ร่วมกับ กระทรวงเกษตรฯ ลงพื้นที่ให้ความรู้กับ เกษตรกรรายย่อย ภายใต้ โครงการไทยนิยมยั่งยืน เพื่อสร้างทักษะและส่งเสริมการวางแผนการเพาะปลูกสินค้าเกษตรให้ตรงกับความต้องการของตลาดป้องกันปัญหาราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำและล้นตลาดที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกฤดู

นอกจากนี้ยังเร่งขับเคลื่อนการรับสมัครร้านค้ารายย่อยเข้าร่วม โครงการร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่ใช้แอปพลิเคชัน ถุงเงินประชารัฐ รับชำระค่าสินค้าจาก บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งเป้าไว้ที่ 1 แสนร้านค้า สนับสนุนสินค้าชุมชน สินค้าโอทอปและสินค้าเอสเอ็มอีให้มีช่องทางจำหน่ายสินค้าเพิ่มมากขึ้นด้วย

ในการร่วมคณะรองนายกฯ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้าร่วมประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย–ญี่ปุ่น สนธิรัตน์ ได้ใช้โอกาสนี้หารือกับบริษัท Jupiter Shop Channel ซึ่งเป็นบริษัทบริหารกิจการ TV Shopping ที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น นำสินค้าจากประเทศไทยไปจำหน่าย เช่น หมอนผ้าไหม กระเป๋าหนังปลากระเบน น้ำหอมอโรมา เครื่องประดับและผลไม้ไทย ซึ่งได้รับความนิยมจากผู้บริโภคชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว จากที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นสินค้าโอทอปที่มีคุณภาพ ประกอบกับญี่ปุ่นได้ลดภาษีการนำเข้าจากไทยกว่าร้อยละ 88 ของจำนวนสินค้ากว่า 9,000 รายการ ทำให้โอกาสที่จะมีการขยายตลาดในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอีก

ผลิตภัณฑ์จากสินค้าไทยที่นำไปสู่ ร้านอาหารไทยในต่างประเทศ ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคจากทั่วโลก โดยเฉพาะ ข้าวไทย มีการโปรโมตข้าวไทยไปยังประเทศต่างๆโดยผ่าน

เชฟชื่อดังคนไทย ล่าสุด มีการจัดงาน Healthy Rice Campaign 2018 ร่วมกับร้านอาหารไทย PAI Restaurant ซึ่งเป็นร้านอาหารไทยชั้นนำใน โตรอนโต ประเทศแคนาดา มีการแนะนำ ข้าวหอมมะลิแดง ข้าว กข 43 และ ข้าวไรซ์เบอร์รี ให้ต่างชาติได้รู้จัก สะท้อนให้เห็นถึงการพัฒนาข้าวไทยไปสู่อาหารเพื่อสุขภาพที่มีคุณภาพสูง

ประเทศไทยมีทรัพยากรที่มีคุณค่าและสามารถจัดเป็น พืชเศรษฐกิจ ที่นำรายได้เข้าประเทศมากมายหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นข้าวหรือผลไม้ สินค้าประมงและสินค้าการเกษตรอื่นๆ เพียงแต่เราขาดการบริหารจัดการที่ดี เพื่อส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเหล่านี้ให้เป็นสินค้าของโลก

ประเทศไทยไม่ใช่แค่เป็น ครัวของโลก หรือเป็น ครัวไทย สู่ครัวโลก เท่านั้น แต่ประเทศไทยจะต้องเป็น จุดศูนย์กลางของอาหารโลก ที่มีคุณภาพและมีการพัฒนาให้เป็น แบรนด์ของประเทศ ในอนาคต

ถ้านึกถึงอาหารการกินก็จะต้องนึกถึงประเทศไทย ในขณะเดียวกันก็ต้องมีการพัฒนาเกษตรกรของประเทศเข้าถึงเทคโนโลยีและการตลาดสมัยใหม่ด้วย

เข้าสู่โหมดเกษตร 4.0 อย่างจริงจัง.

หมัดเหล็ก
mudlek@thairath.co.th