พาณิชย์ เต้นไล่บี้ “อคส.” ฟ้องแพ่งโกงจำนำข้าว ปี 54-57 รวม 244 สัญญา หลัง “วิษณุ” จี้ทำให้ทันสิ้นปีนี้ หวั่นคดีหมดอายุความ ขณะที่ ผอ.อคส. ลั่นตั้งคณะกรรมการแล้ว ขีดเส้นส่งอัยการ ภายในก.ย.นี้...
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เร่งรัดให้องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) เร่งฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในโครงการรับจำนำข้าว และสินค้าเกษตรอื่นๆ เพื่อรักษาประโยชน์ของรัฐ และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับส่วนราชการ โดยต้องส่งให้อัยการฟ้องให้ทันภายในเดือนธ.ค.61 ว่า กระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้เร่งรัดผู้อำนวยการ อคส.ไปแล้ว ให้เร่งดำเนินการส่งฟ้องทางแพ่งให้ทันก่อนสิ้นปีนี้ เพื่อไม่ให้รัฐเสียประโยชน์ และให้รายงานความคืบหน้าการดำเนินการทุกๆ 15 วัน
ด้านพันเอก (พิเศษ) ดิเรก ดีประเสริฐ รองประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส. กล่าวว่า ที่ผ่านมา บอร์ดได้เร่งรัดให้ผู้อำนวยการ อคส.ดำเนินการกับคดีค้างเก่ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการเร่งดำเนินคดีกับคู่สัญญาของอคส.ที่ทำให้รัฐเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวในช่วงที่ผ่านมา และยังกำชับให้พิจารณาคืนหลักประกันสัญญาประเภทหนังสือค้ำประกันที่ออกโดยธนาคาร หรือสถาบันการเงินให้กับคู่สัญญาในโครงการรับจำนำข้าว และสินค้าอื่นๆ ที่หมดภาระกับอคส. โดยมีหลักประกันสัญญากว่า 1,751 ฉบับ มูลค่ากว่า 7,728 ล้านบาท ในจำนวนนี้ อยู่ในขั้นตอนการดำเนินคดี 1,317 ฉบับ มูลค่า 4,973 ล้านบาท และยังคู่สัญญาที่ผิดสัญญา และอยู่ระหว่างการเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย และค่าปรับอีก 326 ฉบับ มูลค่า 1,607 ล้านบาท ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จ จะทำให้รัฐได้เงินกลับคืนคลังไม่น้อยกว่า 6,580 ล้านบาท
ส่วนนางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้อำนวยการ อคส. กล่าวว่า ได้สั่งแต่งตั้งคณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้เชี่ยวชาญ อัยการ สำนักงานนโยบายรัฐ และสำนักกฎหมายของอคส. เพื่อเร่งรัดดำเนินคดีในโครงการรับจำนำข้าว และสินค้าอื่นๆ ที่ยังไม่ได้ดำเนินการ และที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เพื่อให้ทันระยะเวลาของอายุความในแต่ละคดี โดยให้รายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้เริ่มรายงานให้รมว.พาณิชย์ทราบแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย.61
”ล่าสุดมีคดีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 54-57 จะต้องเร่งดำเนินการ 244 สัญญา ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เร่งส่งอัยการฟ้องร้องทางแพ่ง ภายในเดือนก.ย.61 ส่วนการฟ้องทางอาญา ได้ส่งฟ้องไปก่อนหน้านี้แล้ว ส่วนคดีอื่นๆ ให้เร่งส่งฟ้องทางแพ่งก่อนหมดอายุความ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีคดีใด หมดอายุความ ขณะที่บางคดีที่อัยการไม่สั่งฟ้อง เพราะอคส.ทำพยานหลักฐานอ่อนนั้น ยืนยันว่า ไม่มีแน่นอน สาเหตุที่อัยการไม่ฟ้อง เพราะอคส.ส่งฟ้องผิดคลัง เช่น คู่สัญญาที่เก็บข้าวรัฐในบางคลังทำผิดสัญญา แต่อคส.กลับส่งฟ้องคลังที่ไม่ผิดสัญญา อัยการจึงไม่สั่งฟ้อง แต่อคส.ได้ทำพยานหลักฐานใหม่ และจะส่งฟ้องใหม่แน่นอน”
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากคดีเกี่ยวกับโครงการรับจำนำข้าวตั้งแต่ปี 54-57 ที่อคส.จะต้องเร่งส่งฟ้องทางแพ่ง รวม 882 คดี 244 สัญญา เพราะจะหมดอายุความทางแพ่ง ตั้งแต่เดือนธ.ค.61-ก.ค.62 คิดเป็นมูลค่าความเสียหายทั้งสิ้นกว่า 100,000 ล้านบาทแล้ว ยังมีคดีที่เกิดขึ้นในโครงการแทรกแซงราคาสินค้าเกษตรอื่นๆ ตั้งแต่ปี 48-57 เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ มันสำปะหลัง หอมแดง กุ้งขาวแวนนาไม ที่อคส.จะต้องส่งฟ้องทางแพ่งเช่นกัน และบางคดีได้หมดอายุความไปแล้ว ขณะที่บางคดีที่อคส.ส่งฟ้องไปแล้ว แต่อัยการไม่สั่งฟ้อง เพราะหลักฐานอ่อน ส่งผลให้อคส.ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากคู่สัญญาได้คิดเป็นมูลค่ามหาศาล.