เร่งงานคมนาคม ไฟเขียวบินไทย ทุ่มแสนล้าน ซื้อเครื่องใหม่ 23 ลำ

“สมคิด” ตรวจการบ้านคมนาคม บี้ประมูลเมกะโปรเจกต์ “บก-น้ำ-อากาศ” ย้ำ 7-8 เดือน ต้องเสร็จ ก่อนเลือกตั้งปี 62 ด้าน “อาคม” ไฟเขียวบินไทย ทุ่มงบแสนล้าน ซื้อเครื่องบินใหม่ 23 ลำ...

เมื่อวันที่ 11 ก.ค. นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามความคืบหน้าดำเนินงานในโครงการของกระทรวงคมนาคม ว่า ได้เร่งรัดให้กระทรวงคมนาคมดำเนินโครงการต่างๆ ให้เดินไปตามเป้าหมายภายใน 7-8 เดือนนี้ ก่อนรัฐบาลจะมีการเลือกตั้งในปี 62 ทั้งในเรื่องของการเปิดประกวดราคา เดินหน้าโครงการ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยจะขับเคลื่อนไปได้ดี ต้องมีจุดเริ่มต้นจากความเชื่อมั่นที่ภาครัฐดำเนินการในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน จึงอยากให้คมนาคมคิดในมุมมองที่เกิดประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมทางหลวง (ทล.) เร่งเปิดประมูลโครงการต่างๆ เช่น โครงการก่อสร้างที่เกี่ยวเนื่องกับโครงการระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออกหรือ eec, โครงการมอเตอร์เวย์ โดยเฉพาะเส้นทาง บางใหญ่-บ้านโป่ง ที่ยังล่าช้า ส่วนกรมทางหลวงชนบท (ทช.) ให้นำโครงการสร้างทางเพื่อส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวภาคใต้ “ไทยแลนด์ ริเวียร่า” เข้ามาอยู่ในแผนดำเนินงานงบประมาณปี 62

ส่วนโครงการในความรับผิดชอบของ การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) โดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูง เส้นทาง กทม.-หัวหิน และโครงการรถไฟทางคู่ ให้รฟท.ศึกษาเพิ่มเติมเส้นทางเชื่อมไปยัง สุราษฎร์ธานี ส่วนเส้นทางรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวไปยังเมืองรองให้เพิ่มเส้นทางไปยังภาคเหนือ และภาคตะวันออก ส่วนการโอนย้าย 4 สนามบินของ กรมท่าอากาศยาน (ทย.) มายัง บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) ให้เร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จปีนี้

ขณะที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ให้เร่งประชุมเพื่อที่จะเลือกผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งประธานบอร์ด การบินไทย คนใหม่ โดยเฉพาะ เนื่องจากกระทรวงการคลังได้มีการเสนอชื่อให้ นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมสรรพากร เป็นประธานบอร์ดการบินไทย ส่วนตำแหน่ง ผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย คนใหม่ ได้ให้การบินไทยเร่งดำเนินการเช่นกัน

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งรัดให้ทุกโครงการเมกะโปรเจกต์เข้า ครม. ภายใน ส.ค.-ก.ย.-ต.ค.61 นี้ ซึ่งบางโครงการอยู่ระหว่างการเสนอความเห็นจากคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ หรือสภาพัฒน์ ในส่วนของแผนจัดหาเครื่องบินเพื่อทดแทนเครื่องบินใหม่เข้ามาประจำฝูงบินของการบินไทย ตามแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี (61-64) ได้ให้ ฝ่ายบริหารเร่งดำเนินการแผนจัดซื้อเครื่องบินใหม่จำนวน 23 ลำ มูลค่า 100,000 ล้านบาท คาดว่าจะเสนอเข้าบอร์ดการบินไทยพิจารณาได้ในเดือน ก.ย.61 นี้ ซึ่งการจัดหาดังกล่าวเพื่อทดแทนให้เครื่องบินที่ปลดระวาง และเข้ามาประจำฝูงบินครบจำนวน 105 ลำ ส่วนจะเป็นเครื่องบินรุ่นไหน ขนาดไหน ให้เป็นหน้าที่ของฝ่ายบริหาร การบินไทยที่จะดำเนินการ

ส่วนการรับโอนย้ายสนามบินจากกรมท่าอากาศยาน (ทย.) จำนวน 4 สนามบิน คือ สนามบินตาก, อุดรธานี, ชุมพร, สกลนคร มาอยู่ในความรับผิดชอบบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) มองว่า การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน แต่อยากให้ ทอท. ดำเนินการพัฒนาสนามบินให้มีศักยภาพ เน้นในเรื่องของความสะดวกในการให้บริการผู้โดยสารที่มาใช้บริการ มากกว่าเน้นไปเรื่องของการพัฒนาเชิงพาณิชย์.