นายมนตรี ฤกษ์จำเนียร ผู้อำนวยการท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) เปิดเผยถึงรายละเอียดการจัดสัมมนารับฟังความคิดเห็นจากภาคเอกชน (Market Sounding) ครั้งที่ 3 โครงการท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ว่า ได้เชิญภาคเอกชนเข้าร่วม 12 กลุ่ม ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการที่มีประสบการณ์ในธุรกิจเดินเรือและท่าเทียบเรือ ซึ่งมาจากทั้งในและต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ ดูไบ ฮ่องกง และญี่ปุ่น ซึ่งจากการเปิดรับฟังความคิดเห็นรอบนี้ พบว่ายังมีอีกหลายประเด็นที่ ทลฉ.และเอกชน ยังมีความเห็นไม่ตรงกัน ทาง ทลฉ.จึงเห็นว่าน่าจะมีการเปิดรับฟังความเห็นจากภาคเอกชนอีกครั้งเป็นครั้งที่ 4 ในอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งระหว่างนี้จะดำเนินการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) และงานจ้างที่ปรึกษาควบคู่ไปด้วย
สำหรับข้อคิดเห็นที่ทาง ทลฉ. และภาคเอกชนยังเห็นไม่ตรงกันนั้น เช่น ระยะเวลาสัมปทาน ซึ่งในแผนที่ทาง ทลฉ.ศึกษา ได้กำหนดไว้ว่าควรจะมีระยะเวลา 30-35 ปี เพราะเป็นกรอบเวลาที่ไม่นานเกินไป และอยู่ในช่วงอายุที่เอกชนคุ้มค่าในการลงทุนแล้ว แต่ภาคเอกชนมองว่าควรจะมีอายุสัมปทาน 40-45 ปี เพื่อความคุ้มค่าในการลงทุน นอกจากนี้ ยังมีประเด็นเรื่องสัดส่วนต่างชาติลงทุน เนื่องจาก ทลฉ.ยังคงผลการศึกษาที่แบ่งสัดส่วนให้เอกชนไทยถือหุ้น 51% และต่างชาติ 49% เพราะยังเล็งเห็นถึงศักยภาพของเอกชนไทยที่ยังสามารถลงทุนและบริหารธุรกิจนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขณะนี้มีเอกชนหลายรายเสนอแนวทางที่ควรจะปรับเพิ่มสัดส่วนให้ต่างชาติถือหุ้น 75%.