'คอนเทนต์' หรือ 'ไอที' คือ คิง คุยคน (บ้า) ไอเดีย 'เมฆ เกรียงไกร'

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

'คอนเทนต์' หรือ 'ไอที' คือ คิง คุยคน (บ้า) ไอเดีย 'เมฆ เกรียงไกร'

Date Time: 28 ก.ค. 2561 10:40 น.

Video

ทางรอดเศรษฐกิจไทยในยุค AI ครองโลก | 1st Anniversary Thairath Money

Summary

  • เมฆ เกรียงไกร หรือ เกรียงไกร กาญจนะโภคิน เจ้าพ่อไอเดียถึงที่มาไอเดีย และโลกต่อไป CONTENT IS KING หรือ IDEA IS KING ไอทีกับไอเดียอะไรสำคัญกว่ากัน เมฆ เกรียงไกร มีคำตอบ

Latest


CONTENT IS KING หรือ ​IDEA IS KING คือโจทย์ที่ 'Thairath Talk Fresh' ตั้งคำถาม กับเจ้าพ่อครีเอทีฟเมืองไทย ที่ส่งออกงานมาสเตอร์พีซระดับโลก เราเดินทางตาม 'เมฆ เกรียงไกร กาญจนะโภคิน' ถึง บาหลี...

"ไอเดียเกิดได้ตลอดเวลา ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต 

ไม่ว่าดูทีวี เจอคน กระทั่งสัมภาษณ์แบบนี้ก็เกิดไอเดียได้"

หรือ

'เวลาที่นั่งกันอยู่บนโต๊ะประชุม ผมชอบให้ทุกคนพูด ถ้าไม่พูดไม่ต้องมาประชุมก็ได้นะ

หรือจะมานั่งจดอะไร มันไม่มีอะไรให้จด ปากมีไว้พูด พูดมันก็เกิดไอเดีย'

อยู่ในวงการมากกว่า 20 ปี ตกลงว่าบ้าหรือสร้างสรรค์, CONTENT IS KING หรือ  IDEA IS KING ไอทีกับไอเดียอะไรสำคัญกว่ากัน, ไอเดียเราสู้ต่างชาติได้ไหม ไอเดียดีๆ เร่ิมต้นยังไง คิดมากๆ จะเป็นบ้าไหม

ด้านล่างนี้ Thairath Talk Fresh หวังว่าคนที่อยากได้แรงบันดาลใจจะมีคำตอบ 

Thairath Talk Fresh : แรงบันดาลใจเกิดขึ้นจากไหน

ไอเดียมันสามารถเกิดได้ตลอดเวลา ถ้าเราเป็นคนช่างสังเกต เป็นคนที่ติดตามทุกๆ อย่าง ไม่ว่าเราจะนั่งดูทีวี ไม่ว่าเราจะไปเจอคน บางทีแม้กระทั่งนั่งสัมภาษณ์กันอยู่แบบนี้ก็เกิดไอเดียได้ เราก็ต้องคิดว่ามันมีแง่มุมอะไรที่น่าสนใจ อย่างอันนึงที่เกิดไอเดียจากการขึ้นไปเป็น Guest speaker แล้วเขาก็คุยกันเรื่องว่าหน่วยงานเขาลำบากมากเลย เพราะว่าคนเยอะที่จอดรถไม่พอ แล้วก็จะทำยังไงให้คนไม่สามารถใช้รถหรือใช้รถร่วมกัน ก็เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่าทำไมเราไม่ทำ application ที่ให้คนในหน่วยงานใช้รถด้วยกัน Carpool แต่บีบแคบเฉพาะหน่วยงานเท่านั้นเอง มันก็เลยเป็นที่มาของ Application waze for me ซึ่งเรากำลัง Develop อยู่ ก็เกิดจากการนั่งคุยกันบนเวทีด้วยซ้ำไป ก็เกิดไอเดียแบบนี้

Thairath Talk Fresh :  อีกสักหนึ่งตัวอย่างเวลาจะเกิดไอเดีย จะได้เห็นภาพชัดๆ

อย่างเคสกิโลรันเป็นเคสที่เราไปทำงานมาราธอนที่ฮอยอัน เวียดนาม ก็เห็นอาหารการกินแล้วคนที่มาวิ่งก็ไปเจอกันอยู่ในร้านอาหาร ก็ถามว่าทำไมเลือกมาวิ่งที่ฮอยอัน เขาบอกว่าเมืองสวยแล้วก็อยากมาเที่ยวอยู่แล้วเลยหาโอกาสที่จะมา แล้วอาหารอร่อย ก็มองว่าแล้วทำไมมันไม่มีใครที่จะจัดเอาเรื่องกิน เรื่องเที่ยว เรื่องสุขภาพมาเป็นเรื่องเดียวกัน มันเป็นเรื่องของเทรนด์ของทั้งโลกที่ทุกคนชอบเที่ยว

วันนี้ถ้าไปดูงานวิจัยเทรนด์ชอบ คนจะชอบเที่ยวมากขึ้น และเป็น Frequency ความถี่มากขึ้น ปีนึงเมื่อก่อนอาจจะ 2-3ทริป ทุกวันนี้มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะค่าใช้จ่ายมันถูกลง การเดินทางง่ายขึ้น สะดวกขึ้น แล้วตั๋วเครื่องบินก็ไม่ได้แพงแล้ว คนรุ่นใหม่เขาก็จะชอบเที่ยวกันมากขึ้น เราก็เลยคิดว่าการตัดสินใจที่จะไปไม่ไป บางทีมัน
ก็เรื่อยเปื่อย แต่พอมันมีการกำหนดขึ้นมาว่ามันต้องไปแบบนี้ๆ แล้วมันมีการจัดการให้หมด แล้วอาหารอร่อยมันไม่ได้แปลว่าทุกร้านอร่อย กิโลรันมันก็เป็นเรื่องของการไปเลือกร้านอาหารที่อร่อยที่สุด เมืองที่มีวิวทิวทัศน์สวยที่สุด จบ! มันก็กลายมาเป็นเรื่องเดียวกัน นี่ก็คือเป็นวิธีการที่เราหาไอเดียในการทำอะไรพวกนี้

Thairath Talk Fresh :  กลั่นกรองยังไงมาเป็นยอดไอเดีย

พอผมเกิดไอเดียเราก็จะเรียกประชุมทีม ผมเป็นคนที่ต้องบอกว่าอยู่ในออฟฟิศเอาเป็นหลัก ก็ต้องเรียกประชุมแล้วผมจะไม่ยอมประชุมตอนเย็นด้วยเพราะว่าตอนเย็นเหนื่อยแล้ว หมดความคิดสร้างสรรค์ ไม่ค่อยมีแล้ว ก็อยากจะขอประชุมแบบถ้าเป็นเรื่องพวกนี้ ก็ไม่เกินบ่าย 2 บ่าย 3 ตอนเย็นเผื่อเวลาไว้ไปงานสังคมบ้าง เพราะว่าการไปพบปะผู้คนมันก็จะได้ไอเดียอีก ได้ Conection โลกมันใหญ่ธุรกิจมันหลากหลายมันไม่ได้แปลว่าเราต้องรู้ทุกเรื่อง หรือเราจำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง เราก็ไปเจอคนนู่นคนนี้ มันก็จะได้อะไรที่มันมากขึ้นไปอีก ต่อยอดกันขึ้นไปได้

Thairath Talk Fresh :  ไอเดียที่ดีมักจะเกิดขึ้นที่ไหน

เวลาที่นั่งกันอยู่บนโต๊ะประชุม เพราะบนโต๊ะประชุมเป็นคนที่ชอบให้ทุกคนพูด ก็จะเป็นคนบอกว่าถ้านั่งแล้วไม่พูดไม่ต้องมาประชุมก็ได้นะ หรือจะมานั่งจดอะไรมันไม่มีอะไรให้จด ปากมีไว้พูด ฉะนั้นการพูดมันก็เกิดไอเดีย ทุกคนมีไอเดียที่แตกต่างกัน ส่วนตัวเวลาเข้าไปนั่งในห้องประชุมสวมหมวก Creative คนนึง ไม่ได้บอกว่าทุกไอเดียของตัวเองถูกต้อง ผมจะพูดเสมอว่าไอเดียที่ดีไม่ได้มาจากอายุและก็ตำแหน่ง มันมากจากทุกคนใครก็ได้ อย่างพอเราเริ่มต้นประชุม ผมเป็นคนที่ชอบห้องประชุมที่แบบเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้เวลาเยอะ

เพราะว่าจะเป็นคนที่ประชุมในหนึ่งเรื่องให้เสร็จภายในชั่วโมง หรือชั่วโมงครึ่ง อาจจะเป็นนิสัยด้วย เป็นพวกไม่ชอบอยู่กับอะไรนานๆ ฉะนั้นเราก็จะขอเปลี่ยนเรื่องดีกว่า เราก็จะสโคปการประชุมไว้เนี่ยประมาณชั่วโมง ครึ่งชั่วโมง ส่วนใหญ่ก็จะเป็นครึ่งชั่วโมง ชั่วโมงนึง ชั่วโมงครึ่ง ประมาณนี้จบ แล้วก็แลกเปลี่ยนไอเดียกัน คนนู่นโยนไอเดียมาเราก็ฟัง การเป็น Creative ที่ดีควรจะเป็นทั้งคนรับมากกว่าคนใส่ด้วยซ้ำ เพราะบางทีเราพูดอย่างเดียว เราให้อย่างเดียว มันก็เป็นไอเดียของเรา แต่ถ้าเราฟังเราก็จะเกิดไอเดียอื่นๆ ขึ้นมาด้วย นี่คือเทคนิคของคนที่อยากเป็น Creative

อย่างผมเวลาพักก็คือการเอาเข้า นั่งดูทีวี ทุกอย่างมันคือสิ่งที่เป็นการสะสม Creative บางทีมันคือแค่การต่อยอด การได้เห็นเยอะ รู้เยอะ มากกว่าคนอื่นมันก็จะได้เปรียบ เวลาที่ไม่ได้เดินทาง เราก็ดูทีวี คุยกับคน หรือถ้าเดินทางเราก็เห็นมองไปเรื่อยๆ แล้วทำ เป็นคนที่ไม่จดบันทึกอะไรเลย ในห้องประชุมหรืออะไรไม่มีการจด เพราะมีความรู้สึกว่าเราอยากใช้เวลาของเรากับการฟัง กับการคิดมากกว่า

ฉะนั้นเวลาที่เรานั่งอยู่เราก็จะไม่มีการจด ไม่มีอะไรทั้งสิ้น ก็คือคุย แต่เป็นคนที่จำทุกอย่าง ผมใช้คำว่าเป็นดิจิทัล คือคำว่าเป็นดิจิทัลนี้ก็คือถ้าคนเราจดบันทึกแปลว่าเราต้องกลับไปเปิดอ่าน แต่พอไม่จดบันทึกเนี่ยมันจำมันเป็น Logic มันคือดิจิทัล เป็น 01 01 01 ฉะนั้นบางทีผมเรียกประชุมเนี่ยนะ Topic เดินเข้าไปยังนึกไม่ออกเลย มันนัดเราประชุมเรื่องอะไรวะ แต่พอเขาเริ่มประชุมเราก็จะต่อติดทันที เราจะ Refer ของเก่าได้ มันก็คือดิจิทัลนั่นแหละครับ

Thairath Talk Fresh :  สังคมคนไทยไม่ชอบแสดงความคิดเห็น ใช้เทคนิคอะไรให้คนกล้า

อย่างแรกเวลาอยู่ในห้องประชุมเราต้องเป็นคนนำ ห้องประชุมที่ทำให้ทุกคนรู้สึกว่าเขาต้องไม่กลัวเรา เพราะในสังคมไทยเขาจะกลัวคนที่สูงกว่า อายุมากกว่า อันนี้ก็ครบทุกอย่างอะ อายุมากกว่า ตำแหน่ง มันครบทุกฟังก์ชั่นเลยที่ทำให้ทุกคนไม่อยากจะพูด ฉะนั้นถ้าเราเปิดมาเป็นตัวอย่างที่เป็นไอเดียคิลเลอร์ มันก็จบ

ฉะนั้นเราเริ่มเปิดมาเราก็จะสบายๆ Relax เป็นคนที่นั่งประชุมไม่ค่อยได้ชอบยืน แล้วชอบเขียน เพราะว่าเป็นคนที่เห็นเป็นภาพ เวลาเราทำอะไรก็จะเดินแล้วก็ไปเขียนบนบอร์ดว่าไอเดียแบบนี้มันเป็นแบบนี้ๆ สเกตช์ให้เขาเห็น มันจะได้เห็นภาพด้วยกัน เพราะบางคนแม้กระทั่งคำพูดหรือตัวหนังสือมันตีความได้ แต่อย่างมันตีความไม่ได้มันเห็นภาพเดียวกัน แล้วเราก็จะชอบสเกตช์ให้ว่า ไม่ว่าจะเรื่องการบริหาร การจัดการอะไรต่างๆ มันยิ่งเห็นเป็นภาพมันจะยิ่งเข้าใจง่าย เพราะคนเราเข้าใจเป็นภาพมันน่าจะเป็นสื่อที่เข้าใจง่ายที่สุด พอเราเริ่มต้นของการที่เดิน ยืน มันเป็นเทคนิคของการทำให้การประชุม relax มากขึ้น มันไม่ได้เป็นการประชุมที่เคร่งเครียดอะไรทั้งสิ้น วิธีการ read การประชุมแบบนี้ มันก็จะทำให้ทุกคนฟีล relax ที่จะฟังความคิดเห็นต่างๆ ที่จะนำเสนอไอเดียต่างๆ ของตัวเอง แล้วเราก็จะบอกว่าคุณคิดยังไง คือวันนี้ต้องบอกว่านั่งประชุมกับรุ่นหลานละ

อันหนึ่งที่น่าดีใจอย่างนึงคือสิ่งที่น่ากลัวมากที่สุด Creative ที่อายุเยอะขึ้นเรื่อยๆ เราก็กลัวไอเดียเราเก่า ก็คงเป็นทุกคนสมัยเราเป็นเด็กเราเจอรุ่นใหญ่ โอ้โหไอเดียไม่ได้เรื่อง โคตรเก่า อันนี้คือน่ากลัวมาก ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องพัฒนาตัวเองเรื่องนึงก็คือความรู้ หรือมุมมองใหม่ๆ ถ้าเราไม่สามารถที่จะทำได้มันก็มีข้อจำกัด อย่างพูดถึงศิลปินวันนี้ พูดถึงเพลงวันนี้เราก็คงไม่มีทางอัปเดตได้เท่ากับเด็กๆ เพราะมันเป็นเรื่องของรสนิยม

สิ่งที่เราพยายามอย่างมาก ก็คือบางเรื่องเราไม่ยุ่ง เราปล่อยให้เด็กเขาเป็นคนบอกว่าอันไหนฮิต อย่างโลกดิจิทัลถามว่าเราก็รู้เบสิค แต่เราไม่มีทางรู้เลยว่าวันนี้ดิจิทัลเวิลด์ในมุมที่มันลึกๆ เราไม่มีทางสู้เด็กได้ ฉะนั้นเราก็ Area นี้เราบอกว่าไอเดียนี้ถ้าถามว่าในเชิงกลยุทธ์ ยุทธศาสตร์ เราบอกได้ แต่ถ้าใน Detail ของดิจิทัลเราก็ปล่อยให้ทีม Expert เขาทำ เราไม่จำเป็นต้องรู้ทุกเรื่อง นี่คือวิธีการที่เราต้องปรับตัวเราเองด้วย แล้วเราก็จะกลายมาเป็นคนที่ไม่ได้แบบเก่า อยู่บนหอคอยงาช้าง ที่ไม่ได้เห็น Detail อย่างบางเรื่องก็ต้องบอกเลยว่าเราเองพยายามอย่างมากที่จะ Attend เข้ามาดูงานด้วยตัวเอง ไม่งั้นเราก็ไม่มีทางเห็นสิ่งที่เราคิดมันจะออกมาเป็นยังไง

Thairath Talk Fresh :  ปัจจุบันคุมเองทุกงาน

ก็ไม่ได้ทุกงานนะ แต่บางงานที่ต้องเรียกว่าสำคัญมากๆ ใหญ่มากๆ เราเป็นการทดลองไอเดียใหม่ๆ เราก็ต้องมาดูเอง เพราะว่า index สมัยก่อนเราก็เป็นมือปืนรับจ้าง ใครมีโจทย์อะไรมาเราก็ Crack โจทย์นั้นแล้วก็นำเสนอไอเดีย แล้วก็ทำให้มันเกิดขึ้น ทุกวันนี้เรามีงานของเราเอง แล้วงานของเราเองส่วนใหญ่แล้วเป็นงานที่คิดขึ้นมาใหม่ ไม่เคยมีใครทำมา เราก็อยากจะดูว่าไอเดียที่เราทำ Feedback มันเป็นยังไง คนชอบอันไหน คนไม่ชอบเราต้องปรับยังไงบ้าง เพื่อให้งานเมื่อเรากลับมา Repeat เพราะงานส่วนใหญ่จะถูก Repeat กลับมาอีกที เราจะได้รู้ว่าอันนี้คือสิ่งที่ถูกต้อง อันไหนคือเราต้องปรับปรุง หรืออันไหนที่มันจะมีจุดรั่วต่างๆ เราก็จะได้มานั่งดูแล้วจะได้ปรับ

Thairath Talk Fresh :  ยังส่องกระจกดูผลงานตัวเองอยู่เสมอ

ถูกต้อง ปีนี้ index 28 ปีละ ถ้าเป็นคนก็อายุยังไม่เยอะ เป็นบริษัทเนี่ยก็ต้องบอกว่าเป็นบริษัทที่...ถ้าเป็นโรงงานก็อาจจะบอกว่าไม่ได้อะไรหนิ แต่พอเป็นบริษัท creative เนี่ย มันเก่าแล้วถ้าดูจากอายุ แต่วันนี้ถ้าถามคนคุณคิดยังไงกับ index ทุกคนจะบอกว่าถ้าพูดถึง index วันนี้ทุกคนก็จะพูดว่าเป็นบริษัทที่ Creative มากเลยนะ innovation มากเลย นั่นแปลว่าอายุของบริษัทไม่ได้ทำให้ภาพลักษณ์ขององค์กรมันดูเก่าเลย หลายๆ คนกลัวมาก กลัวที่จะบอกอายุของบริษัท ขณะที่เราเองเราก็เคยคิดมุมนี้เหมือนกัน แต่พอเราเช็กจาก Feedback คน คนกลับมองว่ามันไม่ใช่บริษัทเก่าแล้ว มันเก๋า แต่เราเองปรับตัวไปตามสถานะการณ์ของเศรษฐกิจ ของโลก ของไลฟ์สไตล์บ้านเมือง เราปรับตัวเราเองได้ตลอดเวลา

Thairath Talk Fresh :  อยู่ในวงการมากกว่า 20 ปี ตกลงว่าบ้าหรือสร้างสรรค์

ต้องบอกว่าถ้าเป็นคนที่ไม่ต้องทำงานบริหารเลย น่าจะเรียกว่ามึงบ้ามาก โคตรกล้าเลยทำนู่นทำนี่ แต่พอต้องสวมหมวกผู้บริหารมันถูก balance ไปเรียบร้อยแล้วว่าทุกไอเดียมันมีเรื่องของธุรกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง ตรงนี้คือสิ่งที่ยากที่สุดต้อง balance เพราะว่าวันที่สวมหมวกเป็น creative เป็น creator เราจะสวมหมวกแบบนึง แต่วันที่เราสวมหมวกอีกใบนึง หรือบางทีอาจจะข้ามชั่วโมงเลยนะอีกใบนึง เรากลายมาเป็นคนที่ต้องดู prostfix and lost จะ balance ชีวิตยังไง

Thairath Talk Fresh : อยากจะเป็นแบบคุณต้องเริ่มยังไง

ส่วนตัวนะมีความเชื่อเรื่อง Passion หนักมาก คือถ้าเราทำงานแล้วเรามี Passion ที่ดีที่ตรงกับงานที่เราทำ มันจะทำงานยังไงมันก็ไม่เหนื่อย ก็สนุก แล้วเราก็รู้สึกว่าทุกวินาทีที่เราทำงานมันไม่เหมือนว่าเราทำงาน มัน Enjoy กับงานที่เราทำมากๆ มันก็จะสนุก อย่างวันนี้ก็ต้องตื่นแต่เช้า ตี 4 ตี 5 เพื่อที่จะไป Attend งาน ก็เลือกบอกน้องเลือกโรงแรมที่อยู่ไม่ไกลนะ เดินได้นะ แล้วก็ไม่ต้องมายุ่งกับเรา เราจัดการตัวเราเองได้ เราเดินไปกลับงานเองตลอดเวลา คือถ้าเราไม่สนุกกับงานก็ไม่อยากไป อยากไป อยากไปดู feedback ของคน โดยเฉพาะนี่คือสนามที่ 2 ของกิโลรัน เป็นสนามที่ต้องเรียกว่า Major ของคนมาร่วมงาน เป็นคนต่างชาติเกือบทั้งหมด ประมาณ 60-70% แล้วเรียกว่าเชื้อชาติก็แตกต่างมาก

แน่นอน Major เป็นคนอินโดนีเซีย ที่เหลือเป็นคนชาติอื่น ยอดขายทีแรกคนไทยมาเยอะกว่าชาติอื่นเลย ทำไปทำมาแป๊บเดียวแซงแล้ว เพราะฉะนั้นเราอยากเห็นว่าไอเดียของเรากับคนต่างชาติเป็นยังไง เขาชอบไม่ชอบ สนุกไม่สนุก วิธีการคิดแบบนี้มันเป็นยังไง เขาเห็นเสื้อรู้สึกยังไง เขาเห็นเหรียญเขารู้สึกยังไง เพราะเหรียญเป็นสะเต๊ะ ซึ่งเป็นอาหารพื้นถิ่นที่นี่ หรือเห็น Mascot เรา เบาหวิวตัวเบ้อเริ่ม เขาถ่ายรูปไหม ฝรั่งเห็นจะเป็นยังไง มีตั้งแต่ออสเตเรีย ยุโรปเต็มไปหมดเลย เราก็อยากจะรู้ไอเดียของเราที่ถูกนำมาทดลองสนามแรก ที่เป็นต่างประเทศ เป็นยังไง

วันนี้เจอคนนึงเป็นคนญี่ปุ่นเขาบอกว่า เขารู้เรื่องกิโลรันว่าเดี๋ยวเราจะต้องไปโอซาก้า มันเป็นเรื่องน่าอายมากเลยนะว่าทำไมงานแบบนี้คนญี่ปุ่นคิดเองไม่ได้ นี่เป็นคำชมสำหรับผมมันคือคำชมว่าเขารู้สึกว่าไอเดียเรามันเจ๋งมาก ทำไมคนญี่ปุ่นคิดไม่ได้ เราก็นึกในใจญี่ปุ่นคิดมาพอแล้วแหละ ปล่อยให้คนไทยคิดบ้างเหอะ (หัวเราะ)

Thairath Talk Fresh :  ไอเดียเราสู้ต่างชาติได้ไหม 

อย่างแรกเราต้องยอมรับว่า เราชอบชมตัวเราเองคนไทยสู้คนได้ทั้งโลก ไอเดีย Creative ไทยเก่งที่สุดในโลก แต่เรายังไม่เห็นมีใครออกไปสู่ต่างประเทศเลย เพราะฉะนั้นเมื่อไหร่เราชมตัวเราเอง สำหรับงาน Creative งานอะไรพวกนี้ มันต้องถูกวัดด้วยคนอื่น ผมเนี่ยบอกเลยว่าคุณรู้ตัวได้ไงว่าคุณเป็น Creative

Creative สำหรับผมคือเรามีไอเดีย ทุกคนมีไอเดียเหมือนกันหมดแหละ แต่ไอเดียที่ทุกคนยอมรับมากที่สุด คือ Creative ไอเดียที่เป็น Universal คือทุกชาติ ทุกภาษา ยอมรับได้มากที่สุด นั้นแหละคือสิ่งที่เรียกว่า Creative ที่เก่งจริงๆ ต้องบอกว่าคนไทยอาจจะมีไอเดียที่ดี แต่เรายังชอบไม่ออกไปข้างนอกไง สิ่งที่เราเชื่อมั่นว่าเราเก่ง เราเชื่อมั่นว่าไอเดียเราดี ต้องลองออกไปทดลองต่างประเทศดู ว่าไอเดียเราอันนั้นมันเจ๋งจริงรึเปล่า โลกทั้งโลกเขายอมรับไหม

อย่างหนังฮอลลีวูดทำไมคนทุกชาติ ทุกภาษาดูแล้วเข้าใจหมด ใช้ภาษาอังกฤษ ใช้วัฒนธรรมอเมริกัน ทำไมหนังฝรั่งเศสไม่ดังเท่าหนังอเมริกัน ทำไมหนังอังกฤษไม่ดังเท่าหนังอเมริกัน เพราะอเมริกันมีสูตรของการทำให้กับคนทั้งโลก ทุกชาติ ทุกภาษา ต่างวัฒนธรรม คุณก็ดูหนังฉันสนุก

Thairath Talk Fresh :  ถ้าอยากรู้ว่าไอเดียดีจริงให้ลองออกไปนอกบ้านตัวเอง

แล้วนั้นแหละคือโจทย์ที่มันท้าทายจริงๆ สำหรับคนที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการทำมาหากิน แล้วผมเชื่อว่าไอเดียพวกนี้เมื่อไหร่เราเริ่มส่งออกได้ มันจะถูก Repeat เพราะงั้นถ้าคุณอยู่เมืองไทยคุณคิดหนึ่งครั้งก็ทำได้หนึ่งครั้งแล้วก็จบ แต่ถ้าเราสามารถทำให้มันทำซ้ำๆ ได้ นี่คือ Creative academy ของจริง

Thairath Talk Fresh :  อีก 3-5 ปีจะเห็นคุณรูปแบบไหน

วันนี้ถ้าพูดถึง index ทุกคนบอกว่าเราเป็น regerner company ก็มีธุรกิจอยู่ใน AEC ต้องบอกว่าในอีก 3 ปีข้างหน้า เราน่าจะก้าวข้ามเกินคำว่าเอเชีย เมื่อ 4-5 ปีที่แล้วเราคือ CLMV ตอนนี้เริ่มก้าว ปีนี้เห็นเราอยู่ในญี่ปุ่นแล้ว ปีหน้าเราจะข้ามเอเชีย ต้องบอกว่าเอเชียคือธุรกิจของเราละ และในอีกปีที่ 3-4 เราจะก้าวข้ามสู่คำว่า เราคือบริษัทเอเชีย

Thairath Talk Fresh : Content is king or idea is king ไอทีกับไอเดียอะไรสำคัญกว่ากัน

ผมว่าคนที่จะทำเทคโนโลยีก่อนที่จะมาเป็นเทคโนโลยีมันต้องมีไอเดียก่อน แล้วเทคโนโลยีจะเป็นสิ่งที่ตามมา หลายๆ คนก็บอกว่าคนไทยเราไม่ค่อยมีเทคโนโลยี ก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นจุดอ่อนของคนไทย สิ่งที่เราควรจะต้องทำก็คือเราจะเอาเทคโนโลยีมาต่อยอดยังไงให้มันใช้ประโยชน์กับเราได้ นั้นคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ตรงนี้ต่างหากที่เราควรจะเรียนรู้ ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าจุดอ่อนเราคืออะไร

เราไม่จำเป็นต้องพัฒนาจุดอ่อนเราจนแข็ง เพราะว่าวันนี้เทคโนโลยีมันเร็วมาก กว่าที่เราจะทำตามเขาได้มันอาจจะก้าวข้ามอีก step นึงแล้ว เพราะฉะนั้นเรามาเรียนรู้ เอาเทคโนโลยีมาต่อยอดให้มันเหมาะกับบ้านเมืองของเรา ไอเดียของเรา แล้วมันก็จะทำให้คุณกลายมาเป็นคนที่ใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์กับชีวิตกับธุรกิจของคุณมากกว่า.


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ