ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาการจัดทำแผนฟื้นฟูบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) และบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือแคท ด้วยการจัดตั้งบริษัท โครงข่ายบรอดแบนด์แห่งชาติ จำกัด (เอ็นจีเอ็น) และบริษัท โครงข่ายระหว่างประเทศและศูนย์ข้อมูลอินเตอร์เน็ต จำกัด (เอ็นจีดีซี) ไม่ประสบความ สำเร็จ เพราะพนักงานคัดค้าน และเสนอให้ควบรวมกิจการของทีโอทีและแคท เป็นบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) นั้น คณะทำงานพิจารณาแผนรองรับการเปลี่ยนผ่านทีโอทีและแคท ที่มี น.ส.อัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธาน ได้ทำหนังสือถึงทีโอทีและแคท เพื่อให้ทำรายละเอียดแผนงาน วิเคราะห์ข้อดี ข้อเสีย เปรียบเทียบกับการตั้งบริษัทลูกให้ชัดเจน เพื่อจะได้นำเสนอคณะอนุกรรมการกลั่นกรองแผนการแก้ไขปัญหารัฐวิสาหกิจ และคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พิจารณา โดยขอให้จัดส่งข้อมูลไม่เกินวันที่ 2 ก.ค.61
สาเหตุที่พนักงานเสนอให้ควบรวบ เพราะปัจจุบันธุรกิจโทรคมนาคมแข่งขันสูงมาก และในปี 2568 ทั้งทีโอทีและแคท จะไม่มีคลื่นความถี่ให้บริการอีกต่อไป เพราะคลื่นที่มีอยู่จะสิ้นสุด การอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) หากต้องการ ประมูลคลื่นในอนาคตก็ควรควบรวมกัน อีกทั้งธุรกิจของทีโอที และแคทซ้ำซ้อนกัน ทั้งธุรกิจโทรศัพท์มือถือ บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง บริการมัลติมีเดียรองรับการบริการดิจิทัลอื่นๆ ดังนั้น เมื่อเป็นรัฐวิสาหกิจโทรคมนาคมเช่นเดียวกัน มีกระทรวงการคลังถือหุ้น 100% จึงควรควบรวมกิจการ เพื่อลดการลงทุน ซ้ำซ้อน และเพื่อความอยู่รอด แม้แผนการควบรวมกิจการเช่นนี้ จะเคยมีการเสนอมาแล้วเมื่อปี 2545 แต่ถูกสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจคัดค้าน.