นายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ตั้งแต่วันที่ 2 ก.ค.นี้เป็นต้นไป ปตท.จะเริ่มทยอยโอนบุคลากรและทรัพย์สินในธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกของ ปตท.ไปยังบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด หรือพีทีทีโออาร์ (PTTOR) โดยจะเริ่มดำเนินธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกทันที พร้อมเปลี่ยนตราสัญลักษณ์ (โลโก้) ทั่วประเทศ โดยคาดจะยื่นคำขอจดทะเบียนต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยได้ในไตรมาส 4 ปีนี้ และเสนอขายหุ้นครั้งแรกแก่ประชาชน (ไอพีโอ) ได้ในไตรมาส 2 ปีหน้า ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการ ปตท. เมื่อ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เห็นชอบให้ขยายเวลาการให้ส่วนลดราคาขายปลีกเอ็นจีวีสำหรับรถโดยสารสาธารณะไปอีก 6 เดือน จนถึงวันที่ 31 ธ.ค.2561 ในกรอบวงเงิน 2,900 ล้านบาท
นายเทวินทร์ยังกล่าวถึงกรณีที่กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลบอล กรีน เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือจีจีซี (GGC) ซึ่งเป็นบริษัทลูกในเครือของ ปตท. ยื่นหนังสือลาออก เนื่องจากมีวัตถุดิบคงคลังมูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท หายไปจากคลังสินค้าว่า ขณะนี้ ปตท.ในฐานะบริษัทแม่เตรียมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าวแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการรอผลการตรวจสอบภายในจากบริษัทจีจีซีด้วย เพื่อรายงานให้คณะกรรมการตรวจสอบใช้ประกอบการพิจารณาอีกครั้ง คาดว่าจะมี ความชัดเจนมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกัน GGC แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯถึงการลาออกของนายจิรวัฒน์ นุริตานนท์ กรรมการผู้จัดการบริษัท มีผลตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. พร้อมแต่งตั้งนายอัฒฑวุฒิ หิรัญ–บูรณะ รักษาการแทน และยังแจ้งว่าได้ตรวจพบปัญหาจำนวนวัตถุดิบของบริษัท ณ วันที่ 31 พ.ค.2561 ที่มีอยู่ 71,800 ตัน ซึ่งได้ชำระราคาไปทั้งหมดไม่ตรงกับปริมาณสินค้าคงคลังที่มีอยู่จริง และเมื่อตั้งคณะทำงานตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่าพนักงานจำนวนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามขั้นตอน ทำนอกเหนืออำนาจหน้าที่ เป็นการกระทำเพื่อประโยชน์ส่วนตัวโดยรู้เห็นกับบุคคลภายนอก โดยความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นขึ้นอยู่กับว่าบริษัทจะสามารถทวงถาม หรือติดตามเอาวัตถุดิบคงคลังในส่วนที่ขาดหายไป ซึ่งมีมูลค่ารวมกันประมาณ 2,100 ล้านบาท ได้มากน้อยเพียงใด.