ขสมก. จับมือ กรุงไทย จ่ายค่ารถผ่านคิวอาร์โค้ด ลุยเปิด 7 เส้นทางใหม่

ขสมก. จับมือ กรุงไทย จ่ายค่ารถผ่านคิวอาร์โค้ด เล็งจีบ Alipay และ WeChat มาให้บริการเพิ่ม-ลุยเปิด 7 เส้นทางใหม่ เชื่อมรถไฟฟ้า

วันที่ 14 มิ.ย. นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดโครงการรับชำระค่าโดยสารองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) สาย Airport bus ผ่าน Krungthai QR Code ซึ่งธนาคารกรุงไทยนำระบบชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์มาติดตั้งบนรถโดยสารประจำทาง (รถเมล์) ขสมก. เพื่อเป็นทางเลือกให้กับประชาชนในการชำระค่าโดยสารว่า ขสมก. ได้ร่วมมือกับธนาคารกรุงไทยนำระบบ QR Code มาใช้ในการชำระค่าโดยสาร เพื่อเป็นทางเลือกให้ประชาชน โดยนำร่องให้บริการบนรถเมล์ปรับอากาศ Airport bus ของ ขสมก. จำนวน 2 เส้นทาง ดังนี้ สาย A1 ท่าอากาศยานดอนเมือง-บีทีเอสจตุจักร จำนวน 16 คัน อัตราค่าโดยสารคนละ 30 บาทตลอดเส้นทางและสาย A2 ท่าอากาศยานดอนเมือง-อนุสาวรีย์ชัยฯ จำนวน 8 คัน อัตราค่าโดยสารคนละ 30 บาทกรณีใช้บริการทางด่วน และอัตราค่าโดยสารตามระยะทาง จำนวน 2 ราคา คือ 11 และ 13 บาท

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. กล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ในวันที่ 1 ก.ค. นี้ ขสมก. จะขยายบริการระบบ QR Code บนรถโดยสาร Airport bus ไปยังสาย A3 ดอนเมือง-สวนลุมพินี และสาย A4 ท่าอากาศยานดอนเมือง-สนามหลวง โดยการให้บริการในท่าอากาศดอนเมืองเป็นเพียงจุดเริ่มต้นและในอนาคตจะขยายบริการ QR Code ไปยัง Airport bus ในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ รวมถึงจะผลักดันให้ ขสมก. เข้าสู่สังคมไร้เงินสด เช่น การใช้ตั๋วแมงมุม บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ QR Code ทั้งหมด

นอกจากนี้มีแนวคิดจะนำ Alipay และ WeChat ซึ่งเป็นบริการกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ของจีน มาให้บริการใน Airport bus ด้วย เพราะท่าอากาศยานมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวจีนที่นิยมขึ้นรถเมล์จากสนามบิน มากกว่ารถแท็กซี่ ขณะเดียวกันจะต้องเร่งประชาสัมพันธ์และติดป้ายภาษาต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับนักท่องเที่ยว

นายณัฐชาติ จารุจินดา ประธานกรรมการบริหารกิจการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ขสมก. กล่าวต่อว่า รถเมล์ Airport bus เริ่มให้บริการตั้งปี 2558 และได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะท่าอากาศยานดอนเมืองที่มีผู้โดยสารขึ้นรถเมล์ Airport bus ถึงกว่า 1 หมื่นคนต่อวัน คิดเป็นผู้โดยสาร 10% ของผู้ที่มาใช้บริการท่าอากาศยานดอนเมืองทั้งหมด และจำนวนยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สาเหตุเพราะท่าอากาศยานดอนเมืองยังไม่มีรถไฟฟ้าเข้าถึง

ดังนั้น ขสมก. จะเพิ่มเส้นทาง Airport bus อีก 1 สายที่ท่าอากาศยานดอนเมือง คือสาย A5 ดอนเมือง-รังสิต โดยจะวิ่งจากท่าอากาศยานดอนเมือง ขึ้นทางยกระดับโทลล์เวย์ ไปลงบริเวณห้างฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต เพื่อเชื่อมต่อกับปริมณฑลบ้าง นอกจากนี้จะปรับเส้นทางเดิมให้เข้าถึงจุดเชื่อมต่อมากขึ้น เช่น สาย A3 ดอนเมือง-สวนลุมพินี ที่จะขยายไปถึงสีลม เพราะสามารถเชื่อมต่อได้ทั้งรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT และรถไฟฟ้า BTS ซึ่งตั้งเป้าหมายว่าในอนาคตจะมีผู้ใช้บริการ Airport bus ทั้งสิ้น 30% ของผู้โดยสารในท่าอากาศยานดอนเมือง

ด้านท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังไม่เพิ่มเส้นทาง Airport bus เพราะไม่ได้รับความนิยมท่าดอนเมือง เนื่องจากมีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ ให้บริการและการจราจรบนทางหลางพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) ค่อนข้างติดขัด นอกจากนี้ ขสมก. เตรียมที่จะยื่นขอกรมการขนส่งทางบก เปิดเส้นทางเดินรถเพิ่มอีก 7 เส้นทางวิ่งเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้าทุกเส้นทาง เพื่อให้ประชาชนเดินทางเชื่อมต่อได้ง่ายครบวงจร ระยะทางราว 10 กม. โดยจะนำร่องในพื้นที่ เยาวราช รอบนอกอนุสาวรีย์ชัยฯ และสีลม เป็นต้น

ณัฐชาติ กล่าวถึงรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คัน ซึ่งปัจจุบันถูกศาลออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวห้ามไม่ให้ ขสมก. รับรถ ขณะนี้ ขสมก. ได้ยื่นอุทธรณ์เพื่อขอความกรุณาให้ศาลปลดล็อก ให้สามารถรับรถมาให้บริการได้ เพราะปัจจุบัน ขสมก. มีรถวิ่งให้บรการไม่เพียงพอ เพราะรถปัจจุบันเก่าและมีปัญหาจอดเสียมากถึงวันละ 290 คัน

ส่วนการติดตั้งระบบอีทิกเก็ตบนรถเมล์ตำนวน 100 คัน นั้น ขสมก. ยังไม่สามารถตรวจรับรถได้ เพราะสัญญาโครงการผูกติดกับโครงการติดตั้งแคลชบ็อก เบื้องต้น ขสมก. ได้ทำหนังสือเพื่อสอบถามไปยังกรมบัญชีกลางว่าจะสามารถยกเลิกสัญญาแคลชบ็อกได้หรือไม่