เปิดแล้ว OTOP MIDYEAR 2018 ยิ่งใหญ่ มท.ชวนคนไทยร่วมสนับสนุนสินค้าชุมชนทั่วไทย ปลื้มความสำเร็จสร้างผู้ผลิตโอทอป 6 หมื่นราย กว่า 1.2 แสนผลิตภัณฑ์ ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้ประชาชนกว้างขวาง แค่วันแรกกวาดยอดขายทะลุ 135 ล้าน คาด 9 วัน เงินสะพัด 900 ล้านบาท
วานนี้ (10 มิ.ย.) พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานเปิดงาน "OTOP Midyear 2018 : OTOP Signature เอกลักษณ์จากเสน่ห์วิถีไทยนิยม" ณ เวทีกลางอาคารชาเลนเจอร์ 2 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี โดยมี นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน เป็นผู้กล่าวรายงานความเป็นมาและวัตถุประสงค์การจัดงาน มีคณะทูตานุทุตจากประเทศต่างๆ คณะกรรมการจัดงาน หัวหน้าหน่วยงานราชการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชนและประชาชน เข้าร่วมงานอย่างคับคั่ง
โดย พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ.2560-2564) โดยมีประเด็นยุทธศาสตร์ที่สำคัญ คือ การสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม และการสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ และแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เพื่อเข้าสู่เป้าหมายสำคัญ คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางด้านรายได้และความยากจน ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งแข่งขันได้ โครงสร้างเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐานรากบริการและดิจิทัล มีผู้ประกอบการรุ่นใหม่ และเป็นสังคมผู้ประกอบการ ในการปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบัน ตามแนวคิดประเทศไทย 4.0 ซึ่งผลของการดำเนินงานที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง ปัจจุบันมีผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP มาลงทะเบียนจำนวนมากถึง 61,582 ราย รวม 126,462 ผลิตภัณฑ์ ก่อให้เกิดการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างกว้างขวาง
"สำหรับปีนี้กลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP นำสุดยอดสินค้า OTOP คุณภาพดีจากทุกภาคทั่วทั้งประเทศมานำเสนอมากกว่า 10,000 รายการ 2,500 ร้านค้า โดยการจัดงานจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจและการใช้จ่ายภาคประชาชนตามนโยบายของรัฐบาล ช่วยสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการ OTOP ตลอดจนสมาชิกกลุ่มต่างๆ เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศ คาดว่าการจัดงานทั้ง 9 วัน จะมีประชาชนทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเข้าชมงานอย่างหนาแน่น สร้างยอดการจำหน่ายสินค้าตลอดงานไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท นอกจากนี้ประเทศไทยยังได้แสดงศักยภาพให้ชาวไทยและชาวต่างชาติ ได้เห็นถึงความก้าวหน้าในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ OTOP ที่มีการยกระดับคุณภาพมาตรฐานของผลิตภัณฑ์ OTOP สู่สากลให้สามารถทำการตลาด เชิงรุกทั้งในและต่างประเทศอีกด้วย" พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว
ด้าน นายอภิชาติ โตดิลกเวชช์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า งาน OTOP MIDYEAR จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 10 แล้ว ซึ่งปีนี้จัดภายใต้แนวคิด "OTOP Midyear 2018 : OTOP Signature เอกลักษณ์จากเสน่ห์วิถีไทยนิยม" นับได้ว่ามีกระแสตอบรับเป็นอย่างดี โดยในวันแรก (9 มิ.ย.) ของการจัดงานมีประชาชน เข้าชมงานทั้งสิ้นกว่า 48,000 คน และมียอดการจำหน่ายสินค้ารวมมากถึง 135 ล้านบาท
"คาดว่าตลอดระยะเวลาการจัดงานทั้ง 9 วันจะมีผู้เข้าชมงานไม่น้อยกว่า 400,000 คน มียอดการจำหน่ายสินค้าตลอดงานไม่ต่ำกว่า 900 ล้านบาท ซึ่งภายในงานนอกจากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ที่คัดสรรมาแล้วจากทั่วประเทศ ยังมีโซนต่าง ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย" นายอภิชาติ กล่าว
ทั้งนี้ ภายในงานได้แบ่งเป็นโซนต่างๆ 7 โซนหลักๆ ดังนี้ 1.การจัดนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร
2.Highlight OTOP ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ OTOP Signature คัดเลือกสินค้าที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่สุดของ 36 จังหวัด มาจัดแสดงและจำหน่าย อาทิ โอ่งมังกร จ.ราชบุรี จัดแสดงโอ่งมังกรใบแรกของจังหวัด ที่มีอายุถึง 150 ปี, ข้าวอินทรีย์ 5 สายพันธุ์ หนึ่งเดียวในโลก จ.ยโสธร, สาธิตการตีมีดอรัญญิก จ.พระนครศรีอยุธยา โดยช่างตีมีด ที่มีความชำนาญ, ผ้าไหมมัดหมี่ จ.ขอนแก่น ที่โดดเด่นเรื่องเทคนิคการทอ และลาย คือ ลายหมี่กง ลายขันหมากเบ็ง ลายขอพระเทพ ลายเชิงเทียน, หมูย่างเมืองตรัง จ.ตรัง ที่ย่างให้ดู และเสิร์ฟร้อนๆ ในงาน เป็นต้น
Best of OTOP จัดแสดงผลงานที่มูลค่าทางด้านศิลปวัฒนธรรมสูง และหาชมได้ยากของ OTOP ศิลปิน 24 ราย แบ่งเป็น 6 หมวด คือ เพชรทอง, ไม้สลัก, เครื่องปั้นดินเผา, แกะสลักหิน, ผ้า และเบญจรงค์ อาทิ งานไม้แกะสลักบ้านถวาย จ.เชียงใหม่ โดยคุณยรรยง คำยวง จัดแสดงแผ่นภาพแกะสลักเนรมิต เป็นชิ้นงานที่รวบรวมงานเขียนของ อ.เฉลิมชัย ความยาว 6 เมตร ใช้เวลาแกะสลักถึง 1 ปี 2 เดือน มูลค่ามากกว่า 1.9 ล้านบาท, ผ้าโบราณบ้านโนนกอก จ.อุดรธานี โดยคุณอภิชาติ พลบัวไข จัดแสดงผ้าขิดไหมลายสายธารนาคเชียงรวง ย้อมสายบัวแดง ซึ่งเป็นลายผ้าที่คิดขึ้นใหม่ ใช้เวลาทอ 4 เดือน มูลค่า 250,000 บาท, เครื่องถมอุทัย จ.นนทบุรี โดยคุณอุทัย เจียรศิริ จัดแสดงชุดเครื่องใช้ (งานคร่ำทอง) เจ้านายชั้นสูงโบราณ โดยยังมีการคงรูปแบบและลวดลายความละเอียดของงานไว้แบบโบราณ มูลค่ารวม 2,850,000 เป็นต้น
หมู่บ้าน OTOP Village ก้าวสู่ OTOP นวัตวิถี จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "8 เสน่ห์ ธรรมชาติ ร่วมวิถี ร่วมสมัย" โดยนำเสนอเสน่ห์ 8 ด้าน ได้แก่ อาหาร การแต่งกาย ที่อยู่อาศัย ประเพณี ศิลปะพื้นถิ่น ความเชื่อ อาชีพ และภาษา ของหมู่บ้าน OTOP เพื่อการท่องเที่ยว 4 หมู่บ้าน 4 ภูมิภาค ดังนี้ ภาคเหนือ บ้านต้นกอก จ.เชียงใหม่, ภาคกลาง บ้านใหม่ จ.พระนครศรีอยุธยา, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บ้านเชียง จ.อุดรธานี, ภาคใต้ บ้านปากบารา จ.สตูล ซึ่งปกตินักท่องเที่ยวต้องไปถึงจุดหมายจึงจะได้สัมผัส แต่การจัดงานในครั้งนี้จะนำมารวมไว้ให้ทุกท่านได้สัมผัสโดยตรงกันถึงในงาน
3.จัดแสดงและจำหน่ายสินค้า OTOP ประกอบด้วย OTOP Classic ระดับ 3-5 ดาว, OTOP กลุ่มที่มีการพัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์เป็นพิเศษ เช่น OTOP ขึ้นเครื่องบิน, เยาวชน OTOP และ OTOP ประชารัฐ
4.OTOP ชวนชิม และ Street Food จำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ของจังหวัด และมีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับโดยภาพรวม
5.Health & Spa เป็นการจัดพื้นที่สำหรับจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Health & Spa พร้อมบริการนวดผ่อนคลายเพื่อสุขภาพ
6.OTOP Trader จัดแสดงศักยภาพ OTOP Trader หลากหลายรูปแบบ เช่น OTOP Outlet, OTOP Lifestyle และ OTOP Trader
7.กิจกรรมการจัดนิทรรศการของหน่วยงานภาคี ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี, กระทรวงพาณิชย์, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงสาธารณสุข, กระทรวงวัฒนธรรม, กระทรวงต่างประเทศ และบริษัท ประชารัฐรักสามัคคี (ประเทศไทย) จำกัด
"นอกจากนี้ ภายในงานยังมีกิจกรรมต่างๆ มากมาย ทั้งสินค้าราคาพิเศษนาทีทอง การแสดงศิลปวัฒนธรรม การประกวดร้องเพลงลูกทุ่ง พร้อมจัดกิจกรรมโปรโมชั่นพิเศษจับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ทุกวัน วันละ 3 เส้น ตลอดการจัดงานทั้ง 9 วัน รวม 27 รางวัล และพิเศษสุดวันสุดท้ายจับแจกรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท จำนวน 5 รางวัล ในเวลา 20.00 น. จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนร่วมกันแต่งกายด้วยชุดไทยหรือชุดประจำถิ่นมาในงาน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสะท้อนเอกลักษณ์และเสน่ห์ของผ้าไทย พร้อมร่วมสนับสนุนและให้กำลังใจกลุ่มผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป ในงาน "OTOP Midyear 2018 : OTOP Signature เอกลักษณ์จากเสน่ห์วิถีไทยนิยม" ระหว่างวันนี้ ไปจนถึงวันที่ 17 มิถุนายนนี้ ตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี" นายอภิชาติ กล่าว