แกร็บแท็กซี่ แจงกรณี จยย.วินรับจ้างที่เรียกร้อง แกร็บไบค์รับ-ส่งผู้โดยสารทั้งที่ติดป้ายดำ ยันไม่นิ่งนอนใจเร่งหารือภาครัฐเพื่อ ขอความชัดเจนในตัวกฎหมาย ที่ไม่สอดคล้องกับชีวิตคนเมือง...
เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2561 บริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ได้ออกแถลงการณ์กรณีกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างรวมตัวเพื่อเรียกร้องกรณีแกร็บไบค์ ที่หน้าสำนักงานอาคารธนภูมิ ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ ว่า
สืบเนื่องจากการที่มีกลุ่มผู้ขับขี่มอเตอร์ไซต์รับจ้างรวมตัวเพื่อเรียกร้องกรณีแกร็บไบค์ ที่อาคารสำนักงานบริษัท แกร็บแท็กซี่ (ประเทศไทย) จำกัด ในวันที่ 17 พฤษภาคม 2561 นั้น บริษัทฯ ขอแจ้งให้ทราบว่าบริษัทฯ รับทราบเรื่องแล้ว และได้มอบหมายให้ผู้ที่มีหน้าที่รับผิดชอบเจรจากับกลุ่มผู้เรียกร้องและติดต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อร่วมกันหาทางออกที่เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย
ในช่วงที่ผ่านมา แกร็บ ได้มีการพูดคุยกับภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำเสนอถึงประโยชน์ของการใช้แอปพลิเคชันมือถือเรียกรถจักรยานยนต์ และการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อมอบการเดินทางที่สะดวกสบาย ปลอดภัยของผู้โดยสาร รวมถึงช่วยเพิ่มงานเพิ่มรายได้ให้แก่ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างทั้งระบบ โดยเรามุ่งทำความเข้าใจอันดีกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย พร้อมขอให้ภาครัฐพิจารณาและดำเนินการสนับสนุนการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น โดยคำนึงถึงประโยชน์ของสาธารณชนเป็นสำคัญ ซึ่งทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา
ในฐานะบริษัทที่มุ่งมั่นให้บริการเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการเดินทางขนส่ง เพื่อช่วยให้ทุกคนสามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ปลอดภัย ในราคาที่เข้าถึงได้ แกร็บเล็งเห็นว่าเราสามารถนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยแก้ปัญหาการเดินทางและการให้บริการของผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างได้ อาทิ บริการรับคนจากจุดหนึ่งไปยังอีกจุดหนึ่งได้โดยผู้ใช้บริการไม่ต้องเดินไปยังจุดจอดรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ส่วนผู้ขับขี่ก็ไม่ต้องเสียเวลาในการนั่งรองานเป็นเวลานาน หรือวกรถเปล่ากลับมาที่จุดจอดเดิมหลังจากส่งผู้โดยสารถึงจุดหมาย ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียค่าใช้จ่ายและเชื้อเพลิงโดยเปล่าประโยชน์ และเพิ่มต้นทุนในการให้บริการ นอกจากนี้ เทคโนโลยีที่บริษัทฯ นำมาใช้สำหรับบริการเรียกรถรับส่งดังกล่าว ยังสร้างโอกาสให้ผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้าง มีงานและมีรายได้เพิ่มมากขึ้นสำหรับเลี้ยงครอบครัวให้มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นกว่าเดิม เพราะในช่วงเวลาที่ไม่ได้รับ-ส่งผู้โดยสาร ผู้ขับขี่ยังสามารถรับงานส่งพัสดุผ่านบริการแกร็บไบค์ (เดลิเวอรี่) และส่งอาหารผ่านบริการแกร็บฟู้ด เพิ่มเติมได้อีกด้วย ทำให้ผู้ขับขี่สามารถใช้เวลาที่มีค่าในการหารายได้ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น แกร็บ ยังมีมาตรฐานความปลอดภัยที่ห่วงใยทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร อาทิ การมีศูนย์ช่วยเหลือที่ทั้งพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสารสามารถติดต่อได้ 24 ชั่วโมง การประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลทั้งสำหรับพาร์ทเนอร์ผู้ขับขี่และผู้โดยสาร โดยเฉพาะในส่วนของผู้โดยสารนั้น แกร็บได้พัฒนาฟีเจอร์หลักที่สร้างความมั่นใจและปลอดภัยในการเดินทางให้กับผู้โดยสาร อาทิ การแจ้งข้อมูลผู้ขับขี่และพาหนะเมื่อมีการเรียกรถ การติดตามการเดินทางผ่าน GPS ฟีเจอร์แชร์การเดินทางแบบเรียลไทม์ให้กับบุคคลที่ห่วงใย ระบบการให้คะแนนบริการผู้ขับขี่ และปุ่มฉุกเฉินภายในแอปพลิเคชันเพื่อสามารถกดแจ้งเหตุด่วนได้ในทันที โดยเรากำลังพัฒนาฟีเจอร์ปุ่มฉุกเฉินดังกล่าว เพื่อให้ผู้โดยสารสามารถใส่เบอร์มือถือรับแจ้งเพิ่มเติมซึ่งเจ้าของจะได้รับข้อความเตือนทันทีเมื่อผู้โดยสารกดปุ่มฉุกเฉิน ซึ่งในปัจจุบัน มีทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสารจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ต่างก็เห็นถึงประโยชน์และมีความต้องการบริการในรูปแบบดังกล่าว
ทั้งนี้ แกร็บ มีการแยกบริการแกร็บไบค์ (วิน) สำหรับการรับส่งผู้โดยสาร และแกร็บไบค์ (เดลิเวอรี่) สำหรับการรับส่งเอกสารและพัสดุออกจากกันอย่างชัดเจน โดยป้ายทะเบียนสีขาวใช้สำหรับการรับส่งเอกสารและพัสดุเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในช่วงที่มีผู้เรียกใช้บริการมากเป็นพิเศษ แต่มีจำนวนรถให้บริการไม่เพียงพอ มีความเป็นไปได้ที่ระบบมีการแบ่งงานทับซ้อนกัน ซึ่งสำหรับในเรื่องที่มีผู้เสนอให้นำผู้ขับขี่ที่เป็นป้ายดำอยู่ไปขออนุญาตป้ายเหลืองทั้งหมดนั้น บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการเจรจากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอความชัดเจนเกี่ยวกับตัวบทกฎหมาย เนื่องจากการที่ผู้ขับขี่จะจดเป็นป้ายเหลืองได้นั้น จำเป็นต้องมีการรับงานประจำวินและรับงานเฉพาะเขตที่ระบุเท่านั้น ซึ่งไม่สอดรับกับการใช้งานจริงของทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร รวมถึงสิ่งที่เทคโนโลยีสามารถตอบโจทย์และแก้ไขปัญหาได้ในปัจจุบัน
แกร็บ พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อช่วยยกระดับรายได้และมาตรฐานการให้บริการและคุณภาพชีวิตของผู้ขับขี่ พร้อมพัฒนาระบบขนส่งสาธารณะของประเทศให้ปลอดภัยและสะดวกสบายยิ่งขึ้นแก่สาธารณชนผู้ใช้บริการ ซึ่งบริษัทฯ มองว่าจะเป็นการช่วยพัฒนาประเทศตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 อีกทางหนึ่ง.