นายโสภณ พรโชคชัย ประธานกรรมการบริหาร ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส กล่าวว่า ได้ดำเนินการตรวจสอบทำเลราคาที่ดินที่เพิ่มขึ้นสูงสุด 14 พื้นที่ ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา พบว่า ทำเลที่เพิ่มขึ้นสูงสุดสูงถึง 32% ใน 1 ปี คือ พื้นที่สถานี BTS อุดมสุข ราคาอยู่ที่ 450,000 บาทต่อตารางวา (ตร.ว.) รองลงมาเป็นพื้นที่บริเวณโรงเรียนปานะพันธ์ 450,000 บาทต่อ ตร.ว.
เพิ่มขึ้น 29% 3.สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ลาดพร้าว 450,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่มขึ้น 29% เช่นกัน 4.พื้นที่ศรีนครินทร์-บางนา 200,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 5.ถนนวิทยุ 2,000,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 6.พระรามที่ 4 กล้วยน้ำไท 500,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 7.เพชรเกษม-ภาษีเจริญ 200,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25%
8.สถานี BTS ปุณณวิถี 450,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 9.สถานี BTS บางนา 400,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 10.สถานี BTS แบริ่ง 350,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 11.สถานี MRT สุขุมวิท 2,000,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 12.สถานี MRT รัชดาภิเษก 750,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% 13.สถานี MRT พหลโยธิน 500,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25% และ 14.พื้นที่ห้าแยกลาดพร้าว 500,000 บาทต่อ ตร.ว. เพิ่ม 25%
นายโสภณ พรโชคชัย กล่าวว่า ทั้งนี้ การเพิ่มขึ้นของอิทธิพลของรถไฟฟ้า BTS เป็นหลัก เนื่องจากตลาดมีความต้องการสร้างโครงการอาคารชุดตามแนวรถไฟฟ้าสายทำให้ราคาที่ดินพุ่งขึ้นอย่างเด่นชัดที่สุด ทั้งนี้ ในช่วงก่อนหน้าราคาที่ดินไม่เคยขึ้นถึงปีละ 30% แต่ปัจจุบันมีเพิ่มเกิน 30% เพราะที่ดินมีจำกัด และยังไม่มีระบบภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ทำให้ผู้ขายไม่จำเป็นต้องขาย เพราะไม่มีภาษีรบกวน โดยมองว่าหากมีการเก็บภาษี ที่สมควรจะช่วยพัฒนาประเทศได้มาก.