เคยรอเกือบ 10 ปี เอกชนจีนพร้อมลุยประมูลโรงเผาขยะอีก 2 แห่ง

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

เคยรอเกือบ 10 ปี เอกชนจีนพร้อมลุยประมูลโรงเผาขยะอีก 2 แห่ง

Date Time: 19 เม.ย. 2561 16:29 น.

Video

โมเดลธุรกิจ Onlyfans ทำไมถึงมีแต่ได้กับได้ ? บริษัทมั่งคั่ง คนทำก็รวย | Digital Frontiers

Summary

  • เอกชนจีนพร้อมลุยประมูลโรงเผาขยะอีก 2 แห่ง รอสภากทม.อนุมัติงบโครงการ ตามแผนลดขยะที่ต้องฝังกลบที่มีกลุ่ม “สะสมทรัพย์” ได้สัมปทานอยู่ หลังเคยรอโรงแรกมาเกือบ 10 ปี

Latest


เอกชนจีนพร้อมลุยประมูลโรงเผาขยะอีก 2 แห่ง รอสภากทม.อนุมัติงบโครงการ ตามแผนลดขยะที่ต้องฝังกลบที่มีกลุ่ม “สะสมทรัพย์” ได้สัมปทานอยู่  หลังเคยรอโรงแรกมาเกือบ 10 ปี

หลังจากเมื่อประมาณปี 2549 กทม.มีแผนดำเนินการโครงการโรงกำจัดขยะเตาเผา แทนการฝังกลบ ที่มีบริษัทของตระกูลสะสมทรัพย์ รับสัมปทานจาก กทม.อยู่ แต่มีขั้นตอนการดำเนินการมากมาย จนกว่าจะสำเร็จใช้เวลาประมาณ 10 ปี และเพิ่งเปิดดำเนินการโรงกำจัดขยะเตาเผาที่เอกชนจีนได้รับสัมปทานเมื่อปี 2559 และล่าสุด กทม.เตรียมเสนอให้มีเพิ่มอีก 2 โรง

นายเหอ  หนิง ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีแอนด์จี เอ็นไวรอนเมนทอล โปรเท็คชั่น (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ดำเนินโครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าเพื่อสิ่งแวดล้อม หนองแขม เปิดเผยว่าบริษัทมีความพร้อมในการร่วมประมูลโครงการโรงกำจัดขยะผลิตไฟฟ้าอีกครั้ง หลังจากเปิดดำเนินการแห่งแรกมาแล้วประมาณ 3 ปี ด้วยงบลงทุนประมาณ 960 ล้านบาท ซึ่งในช่วงแรกที่เปิดดำเนินการต้องสร้างความเข้าใจกับชุมชนโดยรอบ และที่สำคัญมีมาตรการต่างๆ ที่ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุด ส่วนการคุ้มทุนนั้นคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 6-7 ปี

“บริษัทรับขยะจาก กทม. 500 ตันต่อวัน มาเผา ใช้อุณหภูมิมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส ในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทสามารถกำจัดขยะที่เกิดขึ้นใน กทม.ได้ 170,000 ตัน และผลิตกระแสไฟฟ้าได้กว่า 50 ล้านยูนิต” นายเหอ หนิง กล่าว

สำหรับแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของปริมาณขยะใน กทม. มีเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ ในอนาคต 20 ปีข้างหน้ามีโอกาสเพิ่มมากกว่าร้อยละ 20 จากปัจจุบันที่มีปริมาณขยะประมาณ 10,700 ตันต่อวัน โดยปริมาณดังกล่าวเพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาสูงถึง 2,000 ตันต่อวัน

ด้าน นายชาตรี วัฒนเขจร รองผู้อำนวยการสำนักสิ่งแวดล้อม กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้ สภากรุงเทพมหานคร จะพิจารณาโครงการประมูลจ้างเอกชนดำเนินงานโรงกำจัดขยะเตาเผาผลิตกระแสไฟฟ้า 2 แห่ง ที่บริเวณอ่อนนุช และหนองแขม ขนาดไม่น้อยกว่า 1,000 ตันต่อวัน หากได้รับอนุมัติก็จะดำเนินการประมูลจัดหาเอกชนต่อไป

ปัจจุบัน กทม.มีขยะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ประชากรตามทะเบียนบ้านมีเพียงประมาณ 6 ล้านคน แต่มีประชากรแฝงที่มาทำงานในกรุงเทพฯ และนักท่องเที่ยว รวมกว่า 10 ล้านคน ทำให้มีขยะมากกว่า 10,000 ตันต่อวัน โดยเฉลี่ย 1 คนใน กทม.สร้างขยะ 1.1 กิโลกรัมต่อวัน ซึ่งปัจจุบันมีวิธีกำจัดขยะหลักๆ คือ ฝังกลบ ประมาณร้อยละ 80 การหมักเป็นปุ๋ย ร้อยละ 16 และที่เหลือ ร้อยละ 4 กำจัดโดยเตาเผาเพื่อผลิตไฟฟ้า ที่มีโรงเดียวคือ ที่หนองแขม ซึ่งวิธีการกำจัดขยะที่ดีที่สุดคือ โรงกำจัดขยะเตาเผา แต่ต้นทุนสูงกว่าฝังกลบ โดยฝังกลบต้นทุนประมาณ 700 บาทต่อตัน ส่วนโรงกำจัดขยะเตาเผาต้นทุน 900 บาทต่อตัน

สำหรับงบประมาณที่ใช้กำจัดขยะ รวมค่าจ้างเจ้าหน้าที่ปีหนึ่ง ประมาณ 6,000 ล้านบาท แม้จะมีแผนการรณรงค์ให้ปริมาณขยะลดลง เช่น งดใช้ถุงพลาสติก การรีไซเคิล นำของกลับมาใช้ประโยชน์ แต่ปริมาณขยะก็ยังเพิ่มขึ้นทุกปี เฉลี่ยประมาณร้อยละ 5-10 ดังนั้น งบประมาณที่ใช้ในแต่ละปีจึงเพิ่มขึ้นร้อยละ 5-10 เช่นกัน

นายชาตรี เปิดเผยว่าแม้ปัจจุบันจะมีเอกชนที่ กทม.จ้างดำเนินงานโรงกำจัดขยะเตาเผารายเดียวที่หนองแขม แต่ไม่ได้ปิดกั้นต่างชาติรายอื่นๆ ที่จะมายื่นเสนอประมูลอีก 2 โรงที่จะเปิดใหม่ดังกล่าว

ส่วนการกำจัดขยะแบบฝังกลบในปัจจุบันมีผู้ดำเนินการรับสัมปทานจาก กทม.เป็นเวลา 10 ปี คือกลุ่มบริษัทของครอบครัวนักการเมือง ตระกูลสะสมทรัพย์


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ