กระทรวงแรงงาน ย้ำราชกิจจาฯ ออกประกาศแล้ว อัตราใหม่ค่าจ้างขั้นต่ำ ทั่วประเทศ สูงสุด 330 ต่ำสุด 308 บาท มีผลบังคับใช้ 1 เม.ย.นี้...
เมื่อวันที่ 21 มี.ค. นางเพชรรัตน์ สินอวย รองปลัดกระทรวงแรงงาน ในฐานะโฆษกกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 19 มีนาคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ "ราชกิจจานุเบกษา" เผยแพร่ประกาศเรื่อง อัตราค่าจ้างขั้นต่ำ (ฉบับที่ 9) ด้วยคณะกรรมการค่าจ้างได้มีการประชุมศึกษาและพิจารณาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับอัตราค่าจ้างที่ลูกจ้างได้รับอยู่ ประกอบกับข้อเท็จจริงอื่นตามที่กฎหมายกำหนด เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา และมีมติเห็นชอบให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเพื่อใช้บังคับแก่นายจ้างและลูกจ้างทุกคน
ทั้งนี้ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 330 บาท ในท้องที่จังหวัดชลบุรี ภูเก็ต และระยอง
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 325 บาท ในท้องที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดฉะเชิงเทรา นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี สมุทรปราการ และสมุทรสาคร
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 320 บาท ในท้องที่จังหวัดกระบี่ ขอนแก่น เชียงใหม่ ตราด นครราชสีมา พระนครศรีอยุธยา พังงา ลพบุรี สงขลา สระบุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี หนองคาย และอุบลราชธานี
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 318 บาท ในท้องที่จังหวัดกาฬสินธุ์ จันทบุรี นครนายก ปราจีนบุรี มุกดาหาร สกลนคร และสมุทรสงคราม
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 315 บาท ในท้องที่จังหวัดกาญจนบุรี ชัยนาท นครพนม นครสวรรค์ น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ พะเยา พัทลุง พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ ยโสธร ร้อยเอ็ด เลย สระแก้ว สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี และอุตรดิตถ์
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 310 บาท ในท้องที่จังหวัดกำแพงเพชร ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย ตรัง ตาก นครศรีธรรมราช พิจิตร แพร่ มหาสารคาม แม่ฮ่องสอน ระนอง ราชบุรี ลำปาง ลำพูน ศรีสะเกษ สตูล สิงห์บุรี สุโขทัย หนองบัวลำภู อำนาจเจริญ และอุทัยธานี
ให้กำหนดอัตราค่าจ้างขั้นต่ำเป็นเงินวันละ 308 บาท ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส ปัตตานี และยะลา
สำหรับประกาศคณะกรรมการค่าจ้างฉบับนี้ ให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย. 2561 เป็นต้นไป โดยการปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำในครั้งนี้จะช่วยทำให้นายจ้างและลูกจ้างอยู่ได้ และเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งเมื่ออัตราค่าจ้างขั้นต่ำใหม่ทั่วประเทศมีผลใช้บังคับแล้ว กระทรวงแรงงานจะกำกับดูแลให้สถานประกอบกิจการปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมายต่อไป.