นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ว่า กกร.ยังคงกรอบประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้ ไว้ตามเดิมที่ 3.8-4.5% และการส่งออกที่ 3.5-6% แต่มีความกังวลเรื่องการลงทุนภาครัฐ เมื่อไตรมาส 4 ปี 60 ซึ่งเป็นไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 61 หดตัว 6% จากช่วงปีก่อน ซึ่งสะท้อนเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจล่าช้า หากยังเป็นเช่นนี้อาจกระทบต่อการเติบโตของเศรษฐกิจปีนี้ “การเบิกจ่ายงบประมาณที่ล่าช้า ส่วนหนึ่งมาจาก พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างฉบับใหม่ที่มีรายละเอียดปลีกย่อยรัดกุม ขณะที่เอกชนระบุว่า เม็ดเงินลงทุนภาครัฐที่แม้จะเบิกจ่ายได้แล้วถึง 30% แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่าเบิกจ่ายจริงแค่ 3% จึงทำให้เงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจล่าช้า ดังนั้น กกร.จึงต้องการให้รัฐเร่งรัดการเบิกจ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ”
สำหรับการลงทุนภาคเอกชน ที่ประชุมยืนยันว่ามีสัญญาณดีขึ้นหลังสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ผ่านความเห็นชอบ พ.ร.บ.ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ทำให้เอกชนเริ่มมองหาที่ดินขยายการลงทุนเพิ่มขึ้นแล้ว และคาดว่าการลงทุนเอกชนจะชัดเจนมากขึ้นไตรมาส 2 ปีนี้ “เศรษฐกิจภาพรวมแม้มีสัญญาณดีขึ้นทั้งการส่งออก ท่องเที่ยว และการบริโภคที่เริ่มฟื้นตัว แต่ยังไม่แข็งแรง กกร.จึงต้องติดตามปัจจัยเสี่ยงจากความผันผวนของค่าเงินบาท ที่ส่งผลกระทบต่อความสามารถในการส่งออกและผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมและการค้าจากมาตรการปกป้องการค้าของสหรัฐฯที่อาจมีมาตรการตอบโต้กลับ เช่น สหภาพยุโรป แคนาดา จีน ฯลฯ ซึ่งอาจกระทบต่อเศรษฐกิจโลกได้”
นายเจนกล่าวว่า กกร.ยังได้หารือถึงประเด็นที่จะให้ตัวแทนจากสภาหอการค้าฯ ไปหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ถึงแนวทางการวิเคราะห์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมประชาชาติ (จีเอ็นพี) ของไทยให้ลงรายละเอียดมากขึ้น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงขีดความสามารถในการใช้ทรัพยากรของไทยที่จะสอดรับกับนโยบายไทยแลนด์ 4.0.