นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้รับการร้องเรียนจากประชาชน ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอย่างต่อเนื่องว่าร้านธงฟ้าประชารัฐมีการเอารัดเอาเปรียบหลายรูปแบบ ซึ่งได้สั่งการให้กรมการค้าภายในและสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบพฤติกรรมของร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ หากพบว่ากระทำผิดเงื่อนไขให้ใช้มาตรการตั้งแต่เบาไปหาหนัก เริ่มจากว่ากล่าวตักเตือน ให้ปฏิบัติให้ถูกต้อง ไปจนถึงยึดคืนเครื่องรับชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) และตัดออกจากการเข้าร่วมโครงการ
“พฤติกรรมที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุดคือ ไม่ปิดป้ายแสดงราคาจำหน่ายสินค้าและจำหน่ายสินค้าแพงกว่าท้องตลาด นอกจากนี้ บางร้านยังบังคับให้ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ต้องใช้เงินในบัตรวันนั้นวันนี้ หรือนำเครื่องอีดีซีไปให้บริการนอกพื้นที่ ซึ่งขอให้ไปตรวจสอบทั้งหมด และดำเนินการตามขั้นตอนที่ให้นโยบายไว้”
โดยล่าสุดได้รับรายการผลการตรวจสอบแล้ว โดยได้ลงพื้นที่ตรวจสอบร้านค้าธงฟ้าประชารัฐใน 20 จังหวัด จำนวน 42 ร้านค้า ซึ่งพบปัญหาตามที่ประชาชนร้องเรียนจริง ส่วนใหญ่เป็นการจำหน่ายสินค้าแพงกว่าท้องตลาด ไม่ปิดป้ายแสดงราคา และอื่นๆ ซึ่งได้ตักเตือนให้ปฏิบัติตามกฎหมายและเงื่อนไขแล้ว อย่างไรก็ตาม ในจำนวนร้านค้าที่ตรวจสอบได้ยึดคืนเครื่องอีดีซีแล้ว 2 ร้านใน จ.เพชรบุรี เพราะตรวจสอบพบว่ามีการนำเครื่องอีดีซีไปให้บริการนอกพื้นที่และอีกร้านที่ จ.ลำพูน เพราะจำหน่ายสินค้าแพงกว่าท้องตลาด ทั้งนี้ การใช้จ่ายของประชาชนผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ตั้งแต่วันที่ 4 ต.ค.60-23 ก.พ.61 พบว่า มีการใช้จ่ายแล้วรวม 14,700 ล้านบาท โดยมีจำนวนร้านค้าธงฟ้าประชารัฐที่ได้รับการติดตั้งเครื่องรูดบัตรแล้ว 20,000 ร้าน ขณะนี้กำลังติดตั้งเพิ่มอีก 20,000 ร้าน.