ขนส่งทางบกยันแท็กซี่หมดอายุ 2 หมื่นคัน ไม่กระทบประชาชน

ผู้ใช้บริการรถแท็กซี่ สบายใจได้ เพราะกรมการขนส่งทางบก ยืนยันว่า แม้รถแท็กซี่กว่า 2 หมื่นคัน จะหมดอายุการใช้งานตั้งแต่เดือนมีนาคมนี้ แต่จะไม่กระทบกับการใช้บริการ...

เมื่อวันที่ 24 ก.พ. 2561 นายกมล บูรณพงศ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า ยืนยันว่าแม้จะมีรถแท็กซี่กว่า 2 หมื่นคันที่จะหมดอายุพร้อมกันในปีนี้ แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อการใช้บริการของประชาชนอย่างแน่นอน เนื่องจากปริมาณแท็กซี่ที่เหลืออยู่ประมาณ 7-8 หมื่นคัน ยังเพียงพอกับความต้องการของประชาชน

ส่วนกรณีที่ผู้ประกอบการแท็กซี่กังวลว่า ปัญหานี้จะทำให้คนขับแท็กซี่ตกงาน หรือทำให้รถขาดตลาด รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก มองว่าผู้ประกอบการสามารถแก้ปัญหาด้วยการใช้รถยี่ห้ออื่นโดยที่ไม่จำเป็นว่าจะต้องรอรถยี่ห้อใดยี่ห้อหนึ่งผลิตให้ เนื่องจากกรมการขนส่งทางบกไม่มีระเบียบเรื่องการกำหนดยี่ห้อรถ แต่กำหนดเรื่องเครื่องยนต์ ต้องไม่ต่ำกว่า 1,600 ซีซี / นั่งไม่เกิน 7 คน และต้องมีอุปกรณ์แท็กซี่มิเตอร์ตามที่กฎกระทรวงกำหนด

ด้าน นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่กรุงเทพมหานคร ระบุว่า ปีนี้มีความต้องการรถประมาณ 2 หมื่นคัน เพื่อนำมาจดทะเบียนเป็นแท็กซี่ใหม่ เพิ่มขึ้นจากปกติที่ต้องการปีละ 5 พันคัน หากหารถไม่ได้จะส่งผลกระทบ ทำให้แท็กซี่จำนวนหนึ่งต้องหยุดงาน จึงได้เรียกร้องให้กระทรวงอุตสาหกรรม เร่งประสานค่ายรถที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมาย จัดทำแผนผลิตรถยนต์ เพื่อรองรับผู้ประกอบการแท็กซี่ที่ต้องเร่งหารถใหม่ หลังรถยอดนิยมของแท็กซี่อย่าง โตโยต้า อัลติส 2018 ผลิตออกสู่ตลาดไม่ทัน และราคาสูงกว่าปกติ อยู่ที่ประมาณ 9 แสนบาทต่อคัน.