UIH มุ่งธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายและดิจิตอลโซลูชั่นอาเซียน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

UIH มุ่งธุรกิจผู้ให้บริการโครงข่ายและดิจิตอลโซลูชั่นอาเซียน

Date Time: 31 ม.ค. 2561 13:28 น.

Video

วิธีเอาตัวรอดของ Wikipedia ไม่พึ่งโฆษณา ไม่มีค่าสมาชิก แต่อยู่มาได้ 23 ปี | Digital Frontiers

Summary

  • UIH พลิกโฉมยุทธศาสตร์ 2561 มุ่งก้าวสู่ผู้ให้บริการโครงข่ายและดิจิตอลโซลูชั่นระดับภูมิภาคอาเซียน ชู 4 กลยุทธ์หลัก ยกระดับโครงข่ายและการบริการครั้งใหญ่ รองรับเทรนด์โลกดิจิตอล...

Latest


UIH พลิกโฉมยุทธศาสตร์ 2561 มุ่งก้าวสู่ผู้ให้บริการโครงข่ายและดิจิตอลโซลูชั่นระดับภูมิภาคอาเซียน ชู 4 กลยุทธ์หลัก ยกระดับโครงข่ายและการบริการครั้งใหญ่ รองรับเทรนด์โลกดิจิตอล...

นายสันติ เมธาวิกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูไนเต็ด อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด หรือ UIH ผู้ให้บริการระบบโทรคมนาคม กล่าวว่า ปี 2561 บริษัทฯ วางยุทธศาสตร์ก้าวสู่การเป็นผู้ให้บริการโครงข่ายและดิจิตอลโซลูชั่นระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อรองรับเข้าสู่ยุคไทยแลนด์ 4.0 อย่างเต็มตัว และเตรียมความพร้อมรับมือกับดิจิตอลทรานฟอร์มเมชั่นขององค์กรต่างๆ ทั่วประเทศ โดยชูกลยุทธ์ที่สำคัญ 4 เรื่อง ได้แก่ 1. Digital Network นำเทคโนโลยีดิจิตอลยกระดับการให้บริการเป็นโครงข่ายดิจิตอลด้วยการอัพเกรดโครงข่ายสื่อสารโครงข่ายหลักรองรับแบนด์วิธสูง 1 เทราบิตต่อวินาที เชื่อมต่อระหว่างชายแดนไทยทั่วประเทศกับภูมิภาคอาเซียนด้วยเทคโนโลยี DWDM ซึ่งมีคุณภาพและเสถียรภาพสูง เหมาะกับการใช้งานของลูกค้ายุคดิจิตอล ที่มีความต้องการใช้ทราฟฟิครับ-ส่งข้อมูลมากขึ้น รวมทั้งได้เพิ่มสายไฟเบอร์ออปติกหลักเส้นที่ 3 ตามแนวทางรถไฟ ระยะทาง 2,500 กิโลเมตร เพื่อสร้างเสถียรภาพของโครงข่ายและรองรับการใช้งานที่มากขึ้น

นอกจากนี้ บริษัทฯ มีการเชื่อมต่อโครงข่ายกับบริษัท เมียนมาร์ อินฟอร์เมชั่น ไฮเวย์ จำกัด หรือ MIH เพื่อให้บริการโครงข่ายไฟเบอร์ออปติก เชื่อมตรงจากประเทศไทยถึง 21 เมืองสำคัญในกรุงย่างกุ้ง บริการลูกค้าองค์กรในเมียนมาและองค์กรไทยที่ต้องการขยายสาขาไปเมียนมาด้วย รวมถึงสร้างความแข็งแกร่งของโครงข่ายดาต้าเซ็นเตอร์ โดยขยายดาต้าเซ็นเตอร์เพิ่ม 300 ตู้แร็คที่อาคารเบญจจินดา และร่วมมือกับพันธมิตรดาต้าเซ็นเตอร์ทั้งหมด 20 แห่ง เชื่อมต่อดาต้าเซ็นเตอร์บนโครงข่าย UIH Data Center Ring เพื่อรองรับการเติบโตของการใช้บริการคลาวด์ และบิ๊กดาต้าในอนาคต

นายสันติ กล่าวต่อว่า 2. ผนึกพันธมิตรระดับโลก โดยบริษัทฯ เชื่อมต่อโครงข่ายโดยตรงกับผู้ให้บริการคลาวด์ระดับโลกที่สิงคโปร์ โดยได้รับการแต่งตั้งเป็นพาร์ตเนอร์อย่างเป็นทางการจาก AWS และ Microsoft เพื่อให้บริการ Cloud Direct ซึ่งรับประกันคุณภาพ เสถียรภาพ ปลอดภัยและคุ้มค่า 3. ตั้งกลุ่มธุรกิจ Digital Solution เพื่อวิจัยและพัฒนานวัตกรรมโซลูชั่น รองรับการใช้งานดิจิตอลโซลูชั่นขององค์กรทุกประเภท ขณะเดียวกันต่อยอดการให้บริการ Managed Services บริการดูแลและบริหารจัดการ ระบบโครงข่ายในองค์กรอย่างครบวงจร บริการคลาวด์ และไซเบอร์ซีเคียวริตี้ และ 4. Digital People & Service พัฒนาบุคลากรให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางตามมาตรฐานสากลทั้งด้าน คลาวด์ ไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ไอโอที พร้อมทั้งพัฒนาคุณภาพบริการทั้งก่อนและหลังการขาย โดยบูรณาการหน่วยงาน ด้านส่งมอบบริการและดูแลลูกค้า รวมทั้งเพิ่มช่องทางบริการหลังการขาย เพื่อสร้างประสบการณ์การใช้งานและความพึงพอใจแก่ลูกค้าองค์กรมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จากข้อมูลของ Telegeography คาดการณ์การเติบโตของแบนด์วิธในประเทศไทยปี 2560- 2566 มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 33% ดังนั้น การเตรียมความพร้อมสำหรับบริการดิจิตอลทุกด้าน
เพื่อตอบโจทย์การใช้งานโครงข่ายของลูกค้าองค์กรที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจะผลักดันให้บริษัทฯ มีรายได้เติบโตขึ้นปีละ 20%.  


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ