บีบนายกฯตู่ ทบทวน มติปรับค่าแรงขั้นต่ำ พร้อมคุมราคาสินค้า

“ประยุทธ์” ชี้ขึ้นค่าแรงกระตุ้นเศรษฐกิจ วอนผู้ใช้แรงงานให้เข้าใจ ถ้าโครงสร้างเศรษฐกิจเข้มแข็งเมื่อไหร่ ในอนาคตจะปรับขึ้นให้อีก รมว.แรงงานยันสัปดาห์หน้านำผลปรับอัตราค่าแรงงานขั้นต่ำเข้า ครม.แน่ แต่ คสรท.ขู่เคลื่อนไหวหากไม่ทบทวนปรับค่าแรงเท่ากันทั่วประเทศ

กรณีคณะกรรมการค่าจ้างกลาง มีนายจรินทร์ จักกะพาก ปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นประธาน มีมติปรับขึ้นอัตราค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ 7 อัตราตามโชนจังหวัด ตั้งแต่ต่ำสุด 5 บาทถึงสูงสุด 22 บาท พร้อมตั้งแท่นนำเข้าที่ประชุม ครม. เพื่อให้มีผลบังคับใช้ต่อไปนั้น เมื่อวันที่ 23 ม.ค. เวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงมติที่ประชุมคณะกรรมการค่าจ้างกลางเสนอให้ขึ้นค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศว่า ค่าแรงขั้นต่ำไม่ได้ปรับขึ้นมา 3 ปี ตามปกติควรจะปรับขึ้นเฉลี่ย 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี แม้การขึ้นค่าแรงจะไม่ถือว่าสูงมากนัก แต่จะเป็นผลดีก่อให้เกิดการใช้จ่ายเงินในระบบมากขึ้น ขอให้พี่น้องแรงงานมีความเข้าใจด้วยว่า ถ้าหากเราทำโครงสร้างเศรษฐกิจไทยให้มีความแข็งแรงมั่นคงได้ จะทำให้รายได้ของประเทศมีมากขึ้น เก็บภาษีได้มากขึ้น ภาคธุรกิจมีความเข้มแข็ง นำไปสู่การปรับขึ้นค่าแรงในอนาคต เมื่อจะขึ้นค่าแรงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะต้องหาข้อมูลให้ชัดเจน ไม่เช่นนั้นจะเกิดการล่มสลาย เกิดปัญหาหนักกว่าเดิม ขอให้ทุกคนได้ร่วมมือกันก่อนในระยะแรก และนับจากนี้ประชาชนจะได้ประโยชน์มากขึ้นจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ โดยเฉพาะประชาชนรวมกลุ่มเข้าสู่กระบวนการตามมาตรการของรัฐ จะได้ประโยชน์จากมาตรการที่ออกไป

ด้าน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน กล่าวถึงกรณีสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) ระบุมติของคณะกรรมการค่าจ้างกลางที่ปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ ไม่ตรงตามมติอนุกรรมการค่าจ้างจังหวัดว่า ตัวเลขนี้คณะกรรมการค่าจ้างกลางพิจารณา ยืนยันตรงกับของจังหวัดไม่น่ามีปัญหา จะยึดตามมติของคณะกรรมการค่าจ้างกลางเสนอต่อ ครม.ในสัปดาห์หน้า ที่ไม่สามารถเสนอต่อที่ประชุม ครม.สัปดาห์นี้ได้ เพราะอยู่ในขั้นตอนธุรการ หลักการขึ้นค่าแรงครั้งนี้อยู่ประมาณ 5 เปอร์เซ็นต์ ถือว่าสูงในรอบ 3-4 ปีที่ผ่านมา ความจริงแล้วเขาเสนอมาเพียงไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ แต่รัฐบาลมองทุกด้าน ค่าแรงที่ขึ้นครั้งนี้ต่ำสุด 5 บาท สูงสุด 22 บาท ส่วนผลกระทบที่ตามมา ในช่วงแรกอาจจะมีบ้าง แต่ได้มีมาตรการรองรับหลายด้าน หลังจากนั้นจะปรับตัวดีขึ้นมากต่อเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านั้นเมื่อเวลา 10.30 น. ที่ศูนย์บริการประชาชน บริเวณสำนักงาน ก.พ. สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และคณะกรรมการสมานฉันท์แรงงานไทย (คสรท.) นำโดย น.ส.ธนพร วิจันทร์ รองประธาน คสรท. พร้อมสมาชิกประมาณ 50 คน ยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ขอให้ปรับค่าแรงขั้นต่ำเท่ากันทั่วประเทศ โดย น.ส.ธนพรกล่าวว่า คสรท.ขอประกาศจุดยืนเดิมและเรียกร้องต่อนายกฯ ให้ปรับค่าจ้างขั้นต่ำเท่ากันทั่วประเทศ หากรัฐบาลและกระทรวงแรงงานไม่ยอมทบทวนเรื่องนี้ เราจะเคลื่อนไหวต่อไป อีกทั้งขอให้รัฐบาลวางมาตรการควบคุมราคาสินค้า

นายชาลี ลอยสูง รองประธาน คสรท. กล่าวเพิ่มเติมว่า การลดภาษีให้กลุ่มทุน 1.5 เท่า และลดเงินสมทบประกันสังคม 1 เปอร์เซ็นต์ เป็นสิ่งที่รับไม่ได้ อยากให้ รมว.แรงงาน หรือปลัดกระทรวงแรงงาน ทบทวนการปรับค่าจ้างขั้นต่ำอีกครั้ง ก่อนจะนำเข้าที่ ครม.พิจารณา