เฮ! กกพ.ให้ของขวัญกล่องใหญ่ คืนความสุขคนใช้ไฟฟ้าตรึงค่าเอฟทียันกลางปี 61

นายวีระพล จิรประดิษฐกุล โฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า กกพ.ได้พิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ (เอฟที) งวดเดือน ม.ค.-เม.ย.61 ไว้คงเดิมที่ติดลบ 15.90 สตางค์ (สต.) ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บในบิลค่าไฟประชาชนเมื่อรวมค่าไฟฟ้าฐานอยู่ที่ 3.5966 บาทต่อหน่วย (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) เนื่องจากไม่ต้องการให้เป็นภาระกับประชาชน ทั้งนี้ หากคิดต้นทุนการผลิตไฟจริงจะมีผลให้ค่าเอฟทีในงวดดังกล่าวต้องปรับขึ้น 20.25 สต. ต่อหน่วย ซึ่งเป็นผลมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงทั้งก๊าซธรรมชาติ น้ำมันเตา และถ่านหิน แต่ยังมีตัวช่วยคือ ค่าเงินบาทที่แข็งค่า การผลิตไฟฟ้าจากพลังน้ำที่เพิ่มขึ้น และยังมีเงินที่ 3 การไฟฟ้าสะสมไว้ตั้งแต่กลางปีที่ผ่านมารวม 12,566 ล้านบาท กกพ. จึงได้นำมาบริหารจัดการ จนสามารถตรึงค่าเอฟทีไว้ได้

นายวีระพลกล่าวว่า กกพ.ยังได้พิจารณาค่าเอฟทีงวดถัดไปหรือเดือน พ.ค.-ส.ค.61 ซึ่งจากการคาดการณ์พบว่าจะ ปรับขึ้นถึง 19.49 สต.ต่อหน่วย จึงเห็นว่าควรเกลี่ยเงินสะสมก้อนดังกล่าวนำมาบริหารจัดการ เพื่อให้ค่าเอฟทีไม่ปรับเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าภาพรวม กกพ.จะตรึงค่าเอฟทีให้กับประชาชนได้ไปจนถึงกลางปี 61 ขณะเดียวกัน กกพ.ก็กำลังจะทยอยประกาศแผนรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน คาดว่าจะเพิ่มอีก 3 โครงการในปีหน้า รวมปริมาณ 389 เมกะวัตต์ ได้แก่ การผลิตไฟฟ้าจากขยะชุมชน 78 เมกะวัตต์, การรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็กมาก (วีเอสพีพี) 269 เมกะวัตต์ ในปี 61 และรับซื้อไฟฟ้าตามโครงการโรงไฟฟ้าประชารัฐ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ 42 เมกะวัตต์ในปี 61 โดยแผนการรับซื้อไฟฟ้าทั้ง 3 โครงการจะมีการลงทุนรวมเป็น 34,450 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อรวมกับการประกาศรับซื้อไฟฟ้าโครงการผลิตไฟฟ้าเอกชนขนาดเล็ก SPP Hybrid Firm จำนวน 300 เมกะวัตต์ ที่กำหนดให้จ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 64 และรับซื้อไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคการเกษตร พ.ศ.2560 ระยะที่ 2 จำนวน 154 เมกะวัตต์ ที่ต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 61 ฯลฯ ก็จะทำให้เกิดการลงทุนในการผลิตไฟฟ้าในปี 60-64 รวม 96,900 ล้านบาท.