นายบุณยฤทธิ์ กัลยามิตร อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมอยู่ระหว่างการจัดทำมหกรรมลดราคาสินค้าทั่วประเทศเช่นเดียวกับที่ดำเนินการในทุกปี โดยได้ขอความร่วมมือผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์), ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า, ห้างค้าปลีกสมัยใหม่, ห้างค้าปลีกค้าส่งในท้องถิ่น ที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า, ร้านสะดวกซื้อทุกรายให้เข้าร่วมโครงการ โดยในเบื้องต้นจะลดราคาขายสินค้าทุกประเภท ทุกรายการ ตั้งแต่ 20-80% รวมแล้วกว่า 10,000 รายการ ในทุกสาขาทั่วประเทศ หรือกว่า 12,000 สาขา เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในช่วงปลายปี คาดว่า จะดำเนินการในช่วง 10 วัน สุดท้ายของโครงการช็อปช่วยชาติ ที่จะเริ่มต้นวันที่ 11 พ.ย.-3 ธ.ค.60 ซึ่งเป็นช่วงปลายเดือน พ.ย.นี้
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 พ.ย.นี้ จะหารือร่วมกับภาคเอกชนถึงรายละเอียดของการจัดงานอีกครั้ง ส่วนชื่อโครงการจะพิจารณาอีกครั้งว่าใช้ชื่ออะไร รวมถึงธีมงานที่จะเป็นไฮไลต์ในปีนี้ด้วย โดยเชื่อว่า ผู้ประกอบการจะให้ความร่วมมือ และห้างอาจลดค่าธรรมเนียมสินค้าให้กับซัพพลายเออร์ เพื่อที่จะได้นำสินค้ามาลดราคาได้มากๆ
“มหกรรมลดราคาสินค้า กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องหลายปีแล้ว โดยได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรทุกราย นำสินค้ามาลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ ครั้งเดียวในรอบปีแต่ในปีนี้จะเพิ่มผู้ประกอบการค้าปลีกค้าส่งในต่างจังหวัดที่มีศักยภาพเข้ามาด้วย ซึ่งจะจัดในช่วงเวลาที่สอดรับกับโครงการช็อปช่วยชาติของรัฐบาล เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี และยังสามารถนำใบกำกับภาษีมาลดหย่อนภาษีตามมาตรการช็อปช่วยชาติได้ด้วย”
นายบุณยฤทธิ์กล่าวต่อว่า สินค้าที่เข้าร่วมรายการลดราคานั้น จะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และเป็นสินค้าที่ขายทั่วไปอยู่แล้วในท้องตลาด ยืนยันว่า ไม่มีการนำสินค้าเก่าเก็บ หรือสินค้าใกล้หมดอายุมาขายให้ผู้บริโภคอย่างแน่นอน และเชื่อว่า ผู้ประกอบการค้าไม่ยอมเสียชื่อเสียงแน่นอน แต่หากผู้บริโภคพบเห็นว่ามีการขายสินค้าเก่า หรือหมดอายุแล้ว สามารถร้องเรียนได้ทั้งที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) และสายด่วนกรมที่โทร.1569.