มากกว่าธุรกิจนม "ไทย-เดนมาร์ค" กับการสืบสานอาชีพเลี้ยงโคนมพระราชทาน

Economics

Thailand Econ

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ

Tag

มากกว่าธุรกิจนม "ไทย-เดนมาร์ค" กับการสืบสานอาชีพเลี้ยงโคนมพระราชทาน

Date Time: 14 พ.ย. 2560 07:30 น.

Video

คนไทยจ่ายภาษีน้อย มนุษย์เงินเดือนรับจบ ปัญหาอยู่ที่ระบบหรือคนกันแน่ ? | Money Issue

Summary

  • พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ซึ่งครั้งหนึ่งพระองค์ได้พระราชทานอาชีพเลี้ยงโคนมแก่เกษตร...

Latest


พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้นอันหาที่สุดมิได้ ครั้งหนึ่งพระองค์ได้พระราชทานอาชีพเลี้ยงโคนมแก่เกษตร จนได้รับการถวายพระราชสมัญญานาม พระราชบิดาแห่งการโคนมไทย ทำให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมีอาชีพที่มั่นคงมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ย้อนไปเมื่อ พ.ศ.2505 พระองค์ได้เสด็จพระราชดำเนินไปทรง ประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนม และศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์ค ณ ที่ทำการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทยหรือ อ.ส.ค. นับเป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ ตลอดจนเป็นอีกหนึ่งจุดเริ่มต้นของการเลี้ยงโคนมไทย และการดำเนินกิจการของ อ.ส.ค. ผู้ผลิต และจำหน่ายนม รวมทั้งสินค้าต่างๆ จากนมแบรนด์เอกลักษณ์สีสันชัดเจน "ไทย-เดนมาร์ค" หรือ นมวัวแดง ที่เรียกกันจนติดปาก

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้เคยพระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมแก่เกษตรกร ณ บริเวณอาคาร 1962 อ.ส.ค. อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ซึ่งเป็นสถานที่ที่พระองค์และสมเด็จพระเจ้าเฟรดเดอริกที่ 9 แห่งประเทศเดนมาร์ก เคยเสด็จพระราชดำเนินไปทรงประกอบพิธีเปิดฟาร์มโคนม และศูนย์ฝึกอบรมการเลี้ยงโคนมไทย-เดนมาร์คอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 16 ม.ค. 2505 นับเป็นประวัติศาสตร์และจุดเริ่มต้นในการเลี้ยงโคนมไทย ทำให้คนไทยได้บริโภคนม ซึ่งเป็นอาหารมีคุณค่าสูง สร้างอาชีพมั่นคงและสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมมาจนถึงปัจจุบัน

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การ อ.ส.ค. ได้ระบุเอาไว้ว่า อ.ส.ค.ได้ส่งเสริมและขับเคลื่อนการพัฒนาการเลี้ยงโคนมของไทยมาอย่างต่อเนื่องเป็นเวลากว่า 55 ปี โดยได้สืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ผู้พระราชทานอาชีพการเลี้ยงโคนมด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมทั่วประเทศเข้าถึงองค์ความรู้และเทคโนโลยีอย่างถูกต้องเหมาะสม พร้อมกันนี้ เน้นให้ยึดหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มีการศึกษาวิจัยต่อยอด เพื่อพัฒนาการเลี้ยงโคนมแบบไม่หยุดนิ่ง เพื่อยกระดับการผลิตน้ำนมดิบให้มีคุณภาพได้มาตรฐาน อีกทั้งยังได้ร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมนมไทยให้มีศักยภาพทัดเทียมและเป็นที่ยอมรับของนานาประเทศด้วย"

อย่างไรก็ตาม อ.ส.ค. ยังคงมุ่งมั่น สืบสาน รักษาและต่อยอดอาชีพเลี้ยงโคนมอาชีพพระราชทานให้คงอยู่คู่กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โดยมุ่งพัฒนาเกษตรกรให้มีความเข้มแข็ง สามารถพึ่งพาตนเองได้ ทั้งยังมีความมั่นคงในการประกอบอาชีพพร้อมยกระดับรายได้และให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้นอย่างยั่งยืน

สำหรับ อ.ส.ค. ปัจจุบันเป็นรัฐวิสาหกิจสังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สำนักงานตั้งอยู่เลขที่ 160 ริมถนนมิตรภาพฝั่งขาเข้ากรุงเทพฯ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี มีบทบาทหน้าที่หลักคือ ส่งเสริมการเลี้ยงโคนมและพัฒนาอุตสาหกรรมนม

ทั้งนี้ อ.ส.ค. จะรับซื้อน้ำนมดิบจากเกษตรกรเพื่อนำไปผลิตเป็นสินค้าต่างๆ โดยมีโรงงานกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโรงงานนมที่มวกเหล็ก ที่ตั้งสำนักงาน โรงงานนมปราณบุรี จ. ประจวบคีรีขันธ์ โรงงานนมขอนแก่น โรงงานนมสุโขทัย และโรงงานนมเชียงใหม่ ด้วยมาตรฐานในการผลิตและควบคุมคุณภาพระดับสากล

ในส่วนของสินค้าของ อ.ส.ค. ภายใต้แบรนด์ไทย-เดนมาร์คนั้น ประกอบด้วย กลุ่มนมกล่องยูเอชทีรสชาติต่างๆ กลุ่มนมพาสเจอไรซ์ กลุ่มโยเกิร์ตและกลุ่มไอศกรีม นอกจากนั้น ยังมีผลิตสินค้า เพื่อโครงการนมโรงเรียนด้วย

ขณะเดียวกันยังมีบริการอื่นๆ อีก โดยเฉพาะ ณ ที่ตั้งสำนักงานมวกเหล็กไม่ว่าจะเป็นบริการทางด้านสัตวแพทย์และผสมเทียม บริการจัดฝึกอบรมการเลี้ยงโคนม บริการเที่ยวฟาร์ม และบริการบ้านพักรับรอง

ดร.ณรงค์ฤทธิ์ ให้ข้อมูลอีกว่า หน้าที่หลักของ อ.ส.ค. มี 2 เรื่อง คือ 1. ส่งเสริมกิจการโคนมให้แก่เกษตรกรในมิติต่างๆ เช่น การให้ความรู้และฝึกอบรม เป็นต้นและ 2. ทำธุรกิจอุตสาหกรรมนมโดยสินค้าทั้งหมดของเราใช้นมโคแท้ 100% ไม่มีนมผงเจือปนเป็นส่วนผสม โดยผลผลิตนมโคที่ได้ในประเทศ 100% อ.ส.ค. รับซื้ออยู่ที่ประมาณ 20-25%

สำหรับแผนการดำเนินงาน มีแผนงานระยะ 5 ปี ระหว่าง พ.ศ.2560-2564 ด้วยวิสัยทัศน์นมแห่งชาติภายในปี พ.ศ.2564 มีเป้าหมายติด 1 ใน 5 ท็อปแบรนด์สินค้ากลุ่มนมในประเทศไทยที่ลูกค้านึกถึง มียอดขายรวมระดับ 10,000 ล้านบาท พร้อมกับยกระดับองค์กรจากรัฐวิสาหกิจระดับ C ขึ้นเป็นระดับ B ด้วย

ในปัจจุบัน อ.ส.ค. มียอดขายรวมอยู่ที่ประมาณ 9,200 ล้านบาท มาจากขายทั่วไปเป็นหลักส่วนอีก 10% ขายให้กับโครงการนมโรงเรียนและอีก 10% ส่งขายในประเทศเพื่อนบ้าน ล่าสุด กำลังจะส่งขายในมาเลเซียเพิ่มเติม สินค้าส่วนใหญ่ 90% เป็นนมยูเอชที  ทั้งนี้ อ.ส.ค.ทำการตลาดสินค้าเองทั้งหมด โดยช่องทางการขายมี 2 ช่องทาง คือ 1. ผ่านเอเย่นต์ และ 2. ผ่านโมเดิร์นเทรด.

 


Author

กองบรรณาธิการ

กองบรรณาธิการ