นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า ธนาคารจะขอความชัดเจนจากกรมบัญชีกลาง หากประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับสวัสดิการจากรัฐ ไม่มารับบัตรสวัสดิการภายในระยะเวลาที่กำหนดคือ ไม่เกินวันที่ 30 ก.ย.นี้ จะสามารถขยายระยะเวลาการรับบัตรได้หรือไม่ ซึ่งขณะนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างประสานงานกับกรมบัญชีกลาง ส่วนสาเหตุที่ประชาชนยังไม่มารับสวัสดิการ เนื่องจาก 1.ประชาชนบางส่วนยังไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารเพราะอยู่ห่างไกล 2.บัตรสวัสดิการที่อยู่ระหว่างการจัดพิมพ์มีบางส่วนยังพิมพ์ไม่เสร็จ ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งที่เดินทางมารับบัตร สวัสดิการแล้ว แต่ไม่มีบัตรสวัสดิการส่งมอบ 3.รายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์กับรายชื่อที่ถูกตัดสิทธิ์อยู่ร่วมกันทำให้เสียเวลาในการแยกแยะและ 4.บัตรสวัสดิการที่ผู้ผลิตส่งมอบให้แก่ธนาคารนั้น เรียงรายชื่อตามตัวอักษร ไม่ได้แยกเป็นรายสาขาและรายจังหวัด ทำให้เกิดความล่าช้า
“จากจำนวนประชาชนที่ลงทะเบียนขอรับสวัสดิการทั้งหมด 14.1 ล้านคน ล่าสุด ได้ตรวจสอบแล้ว พบว่า ผ่านหลักเกณฑ์ที่กระทรวงการคลังกำหนด 11.67 ล้านคน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านธนาคารออมสิน 3.7 ล้านคน ผ่านหลักเกณฑ์ที่กำหนด 3.4 ล้านคน โดยมีประชาชนเดินทางขอรับบัตรสวัสดิการแล้ว 50% ส่วนธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) และธนาคารกรุงไทยนั้น คาดว่า ยอดการส่งมอบรับสวัสดิการจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับธนาคารออมสิน”
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมช.พาณิชย์ กล่าวภายหลังประชุมทางไกลผ่านวีดิโอคอนเฟอเรนซ์กับพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศว่าได้กำชับให้พาณิชย์จังหวัดในพื้นที่ที่มีร้านธงฟ้าประชารัฐที่ได้ติดตั้งเครื่องรับชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ (อีดีซี) แล้วประมาณ 5,000 แห่งทั่วประเทศ ให้ติดตามดูผลว่ามีปัญหาอะไรบ้าง หลังจากโครงการบัตรสวัสดิการจะเริ่มใช้ได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้ เป็นต้นไป ซึ่งประชาชนสามารถใช้บัตรสวัสดิการซื้อสินค้าที่ร้านธงฟ้าประชารัฐได้ โดยหากพบปัญหาก็ให้รีบรายงานเข้ามายังส่วนกลาง เพื่อจะแก้ไขปัญหาได้ทันท่วงที
“ตอนนี้ร้านธงฟ้าประชารัฐ 5,000 แห่ง ได้ติดตั้งเครื่องรูดบัตรแล้ว และพร้อมที่จะเปิดรับชำระค่าสินค้าด้วยบัตรสวัสดิการ โดยส่วนที่เหลือกำลังทยอยติดตั้ง ซึ่งได้ส่งรายชื่อร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการไปให้กรมบัญชีกลางแล้ว 8,900 แห่ง จากจำนวนร้านที่สมัครเข้าร่วมโครงการทั้งหมด 17,000 แห่ง”.